มิติหุ้น – ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความยั่งยืนทางสังคม (Social Sustainability) ภายใต้พันธกิจ “การธนาคารเพื่อความยั่งยืน” มุ่งเดินตามกรอบ B+ESG ผสานธุรกิจและความยั่งยืนเป็นเรื่องเดียวกัน ผลักดัน “ปันบุญ” โซลูชันช่วยบริหารจัดการมูลนิธิและองค์กรสาธารณกุศลแบบครบวงจร ทั้งด้านการเงิน การระดมทุน และการบริหารงานเอกสารต่าง ๆ ที่มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน พร้อมส่งมอบองค์ความรู้ เพิ่มขีดความสามารถให้องค์กรเหล่านี้ช่วยเหลือสังคมได้เต็มที่
นางกนกพร จูฑา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าธุรกรรมทางการเงินภายในประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า พันธกิจของธนาคารในการสนับสนุนความยั่งยืนทางสังคม หรือ Social Sustainabilityสนับสนุนผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ทั้งลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ชุมชนและสังคม จึงผลักดัน “ปันบุญ” โซลูชันบริหารจัดการมูลนิธิและองค์กรสาธารณกุศลแบบครบวงจร ทำหน้าที่เชื่อมโยงมูลนิธิและองค์กรสาธารณกุศลกับผู้มีจิตศรัทธา โดยเป็นช่องทางระดมทุนเพื่อการเข้าถึงผู้บริจาคใหม่ ๆ ได้มากขึ้น พร้อมอำนวยความสะดวกให้เส้นทางการบริจาคเงินทำบุญ สะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส เพราะธนาคารเชื่อในการสนับสนุนองค์กรเหล่านี้ที่มากกว่าการสนับสนุนด้านบริการทางการเงินแบบธรรมดา แต่เป็นการ Empower เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้องค์กรเหล่านี้สามารถดำเนินงานการช่วยเหลือสังคมได้อย่างเต็มที่
ทั้งนี้ ธนาคารให้ความสำคัญในการสนับสนุนมูลนิธิภายใต้โครงการ “ปันบุญ” แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ
- ส่วนของแพลตฟอร์ม มีการพัฒนาให้เป็นSustainable Donation Platform ซึ่งถือว่า ทีทีบี เป็นธนาคารแรก ๆ ที่คิดพัฒนาแพลตฟอร์มนี้ โดยรองรับช่องทางรับบริจาคทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อผู้มีจิตศรัทธาสามารถเข้ามาร่วมบริจาคได้ตลอดเวลา ด้วยวิธีการบริจาคที่ครบ หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น QR Code, e-Wallet, บัตรเครดิตและเดบิต ซึ่งรองรับทั้งการบริจาครายครั้งและการตั้งค่าบริจาคล่วงหน้าเป็นรายเดือน ทั้งยังช่วยลดภาระของเจ้าหน้าที่มูลนิธิในการจัดการงานเอกสารหลักฐานการลดหย่อนภาษีและการทำบัญชี เนื่องจากทางธนาคารจัดทำและนำส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรผ่านระบบ ผู้บริจาคไม่ต้องเก็บใบเสร็จกระดาษ มูลนิธิได้รับรายงานการรับบริจาคโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง หรือเชื่อมต่อใช้งานระบบ “ปันบุญ” แต่อย่างใด
- ส่วนขององค์ความรู้ มีการส่งมอบความรู้ในรูปแบบการสัมมนาเพื่อมอบองค์ความรู้ให้กับมูลนิธิและองค์กรสาธารณกุศล เช่น เรื่องการทำการตลาดออนไลน์ เพื่อให้องค์กรสามารถไปปรับใช้เพื่อปรับปรุงและพัฒนาการระดมทุนให้ดียิ่งขึ้น
ด้าน นางศีลดา รังสิกรรพุม ผู้จัดการมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ มูลนิธิที่มุ่งเน้นการทำงานด้านการพัฒนาเด็กวัย 3 เดือน – 5 ปี จากครอบครัวยากจนและประสบปัญหาทางสังคม ได้กล่าวถึง ความสำคัญและแนวทางการปรับตัวของมูลนิธิ เพื่อก้าวทันในยุคดิจิทัลและพฤติกรรมผู้บริจาครุ่นใหม่ รวมถึงผลลัพธ์การเติบโตอย่างต่อเนื่องด้านการระดมทุนของมูลนิธิจากการร่วมโครงการ “ปันบุญ” ว่า หลังจาก ทีทีบี มีนโยบายสนับสนุนช่วยเหลือมูลนิธิและองค์กรสาธารณกุศล จึงสนใจเข้าร่วมตั้งแต่ปี 2562 โดยในปีแรกมีเงินบริจาคเข้ามา 100,000 บาท หลังจากนั้นยอดบริจาคก็เพิ่มขึ้นทุกปี โดยมีรายรับจากการบริจาคผ่านปัญบุญตั้งแต่ปี 2562 – 2566 มากถึง 4,000,000 บาท แม้ในช่วงสถานการณ์โควิดยอดบริจาคลดลง เพราะการลงพื้นที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก “ปันบุญ” ก็มีส่วนช่วยอย่างมาก เพราะการได้เข้าร่วมอยู่ในแพลตฟอร์ม ทำให้มียอดการบริจาคเข้ามาต่อเนื่อง รวมถึงมีผู้บริจาคหน้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ทางมูลนิธิสามารถต่อยอดเงินบริจาคไปช่วยเหลือและเพิ่มโอกาสให้เด็กได้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังช่วยให้เจ้าหน้าที่ของทางมูลนิธิทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดขั้นตอนด้านเอกสาร สามารถเรียกดูรายงานได้แบบเรียลไทม์ และมีระบบการจัดการทางการเงินที่ทันสมัย สามารถนำไปเวลาไปพัฒนาทำงานส่วนอื่นเพิ่มเติมได้อีกด้วย
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon