ทีทีบี เปิดตัว “Yuan Pro Rata Forward” บริการจัดการความเสี่ยงด้วยสกุลหยวน เป็นธนาคารแรกและธนาคารเดียวในไทย สำหรับลูกค้าธุรกิจทุกกลุ่ม

208

มิติหุ้น – นางสาวบุษรัตน์ เบญจรงคกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีการค้ากับประเทศในภูมิภาคสัดส่วนสูงถึง 50% โดยเฉพาะประเทศจีนที่เป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คิดเป็นสัดส่วน 18.4% โดยการค้าระหว่างไทยและจีนมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้การนำเข้าและส่งออกของไทยไปยังตลาดจีนในปี 2565 ขยายตัวอยู่ที่ 12.2% โดยมีมูลค่ารวม 105,197 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี สัดส่วนการค้าด้วยสกุลหยวนยังคงมีเพียงแค่ 1.9% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 11,500 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงใช้สกุลเงินดอลลาร์เป็นหลักในการค้าขายถึง 79.6% โดยในปีที่ผ่านมาค่าเงินดอลลาร์ ถือว่าเป็นสกุลเงินที่มีความผันผวนสูงถึง 15.5% สูงกว่าสกุลท้องถิ่นทั่วไป ทำให้ผู้ประกอบกอบการต้องเผชิญความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนอย่างมาก

ทีทีบี จึงขอแนะนำให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนมาใช้สกุลเงินท้องถิ่น (Local Currencies) ในการดำเนินธุรกิจ อาทิ จีนหยวน เกาหลีวอน อินโดนีเซียรูเปีย อินเดียรูปี มาเลเซียริงกิต เนื่องจากสกุลเงินท้องถิ่นมีการปรับตัวไปในทิศทางเดียวกับเงินบาท และช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ที่ทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งในอนาคตการใช้สกุลหยวนยังมีแนวโน้มที่จะเป็นเงินสกุลหลักอีกสกุลหนึ่ง เพราะนโยบายของทางการจีนกำลังผลักดันให้เงินหยวนเป็นที่ต้องการในด้านการค้าระหว่างประเทศของโลก และธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้มีการผ่อนคลายเกณฑ์ธุรกรรมในบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (FCD) ได้อย่างเสรีมากขึ้น และสนับสนุนการใช้เงินสกุลท้องถิ่นในการค้าขายระหว่างประเทศ เพื่อผลักดันให้เกิดระบบนิเวศของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนใหม่ (New FX Ecosystem)

ทีทีบี จึงเปิดให้บริการการจัดการความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนด้วยสกุลหยวน “Yuan Pro Rata Forward” โดยเป็นธนาคารแรกและธนาคารเดียวที่ให้บริการ ซึ่งนอกจากจะช่วยปิดความเสี่ยงได้แล้ว ลูกค้ายังสามารถทราบถึงต้นทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่แน่นอนในอนาคตได้ตั้งแต่วันที่ทำสัญญา ซึ่งจะช่วยในการจัดการบริหารรายรับ ค่าใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น และมีความยืดหยุ่นให้ลูกค้าสามารถส่งมอบ (ใช้สัญญา) ได้ในวันใดก็ได้ก่อนสัญญาครบกำหนด โดยผู้ส่งออกและผู้นำเข้าที่มีรายรับและค่าใช้จ่ายในอนาคตเป็นสกุลหยวน สามารถล็อกไว้ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่ทำสัญญาไว้ โดยไม่มีค่าธรรมเนียมในการทำสัญญา ซึ่งธนาคารตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำด้านการบริหารอัตราแลกเปลี่ยน (FX) และการจัดการความเสี่ยงด้วยสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) โดยจะมีสกุลเงินที่ขยายบริการเพิ่มขึ้นอีก 4 สกุล ในปีนี้ ได้แก่ เกาหลีวอน (KRW) อินโดนีเซียรูเปียะ (IDR) เวียดนามดอง (VND) และ ฟิลิปปินส์เปโซ (PHP)

“การกระจายมาใช้ค่าเงินท้องถิ่น จะช่วยให้ผู้ประกอบการบริหารต้นทุนธุรกิจได้ง่ายขึ้น และลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจลดลง และมีเวลาดูแลธุรกิจได้ดีขึ้น โดยสามารถดำเนินการได้ง่ายตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านช่องทางดิจิทัลแบงก์กิ้งอย่าง ttb touch สำหรับลูกค้ารายย่อย และ ttb business one สำหรับลูกค้านิติบุคคล ซึ่งครอบคลุม 18 สกุลเงินรวมทั้งสกุลเงินท้องถิ่น เพื่อให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องเดินทางไปสาขา” นางสาวบุษรัตน์ กล่าวสรุป

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/

Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon

Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770

Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon