ออสสิริส มองอนาคตทองคำครึ่งหลัง ปี 2566 ลุ้นแตะ 2,100 ดอลล่าร์/ออนซ์

330

มิติหุ้น – ออสสิริส ผู้นำเข้า ผลิต และจัดจำหน่าย ทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ เผยภาพรวมการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2566 เติบโตสดใสตามตลาด พร้อมมุ่งขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง สู่การเป็น One-Stop Service แย้มครึ่งหลัง ปี 2566 ทองคำยังน่าลงทุน แนะนำใช้กลยุทธ์ ออมทองกับออสสิริส เพื่อลดความเสี่ยง

นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออสสิริส จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 2/2566 ที่ผ่านมา ออสสิริสได้ทำการเปิดตัวแฟลกชิป สโตร์ (Flagship Store) ในห้างสรรพสินค้าสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 4 ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าประเภทครอบครัว Gen X Gen Y รวมถึง Gen Z คนรุ่นใหม่ที่มีความสนใจเรื่องการลงทุนทองคำเพิ่มขึ้นถึง 60% ซึ่งสอดคล้องกับที่ออสสิริสได้เริ่มปรับแนวทางมาสร้างความเข้าใจและการเข้าถึงทองคำผ่านช่องทางดิจิทัลและโซเชียลมีเดียต่างๆ ให้เรื่องทองเป็นเรื่องง่าย ตั้งแต่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังได้อานิสงส์จากราคาตลาดทองโลกและในไทยปรับตัวขึ้น จึงทำให้นักลงทุนรุ่นใหม่ปรับพอร์ต หันมาลงทุนสินทรัพย์ทองคำที่มีความเสี่ยงต่ำกันมากขึ้น

“เนื่องจากสภาพตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งพฤติกรรมลูกค้าในแง่ของการลงทุนและพฤติกรรมลูกค้าในแง่ของการสวมใส่ ดังนั้นออสสิริสจึงพร้อมจะเป็น One-Stop Service บนความตั้งใจในการรวมบริการต่างๆ เอาไว้ไม่ว่าจะเป็น การออมทอง การลงทุนในทอง และการซื้อทองรูปพรรณ ให้สามารถจบ ครบในที่เดียว เพื่อสามารถเข้าถึงลูกค้าและสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ตลอดจนเป็นแบรนด์ที่สามารถครองใจลูกค้าได้เมื่อนึกถึงสินทรัพย์ทองคำ โดยปัจจุบันออสสิริสก็มีแพลตฟอร์มออนไลน์และขนส่งรองรับการบริการ ซึ่งทำให้ลูกค้ามีความสะดวกมากขึ้น” นายบุญเลิศ กล่าว

ด้านนายพีระพงศ์ วิริยะนุเคราะห์ นักวิจัยอาวุโส แผนก Ausiris Intelligence บริษัท ออสสิริส จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมราคาทองคำในตลาดโลกช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ว่า มีการปรับตัวขึ้นมา 8% ขณะที่ผลตอบแทนสูงสุดเมื่ออ้างอิงราคาต่ำสุดของปีที่ 1,804 ดอลล่าร์ ในเดือนกุมภาพันธ์ และราคาสูงสุดของปี 2,080 ดอลล่าร์ ในช่วงเดือนพฤษภาคม โดยจะพบว่าราคาทองคำในตลาดโลกให้ผลตอบแทนสูงสุดมากถึง 15% จากปัจจัยหนุนต่างๆ ได้แก่ ความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ เศรษฐกิจถดถอย และปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังมีความกังวลสถานการณ์เศรษฐกิจในยุโรป ความตึงเครียดระหว่างจีน -ไต้หวันและความตึงเครียดระหว่างรัฐเซีย – ยูเครน เป็นต้น

“ออสสิริส มองว่าทิศทางและความน่าลงทุนในทองคำช่วงครึ่งหลัง ปี 2566 นี้ยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนและมีโอกาสไปต่อได้ เพราะหากเราดูสถิติราคาทองคำในไทยและทองคำในตลาดโลก จะเห็นได้ว่าทองคำมีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าเกือบทุกเดือนในปี 2566 และหากเราจะย้อนข้อมูลทางสถิติไม่ว่าจะเป็นข้อมูลย้อนหลัง ในช่วง 5 ปี 10 ปี 20 ปี จนถึง 30 ปี ที่ผ่านมา ราคาทองนั้นมีการปรับตัวขึ้นมาตลอด ในขณะเดียวกันที่ล่าสุด Goldman Sachs ออกมาเผยว่า พอร์ตลงทุนในปี 2566 นี้ ควรปรับสัดส่วนให้มีสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างสินทรัพย์ทองคำเป็นส่วนผสมในพอร์ต 5 – 10% เนื่องจากปัจจัยภาพรวมเศรษฐกิจด้านต่างๆ ที่จะมากระตุ้นอีกครั้งช่วงปลายปี ดังนั้นการมีสินทรัพย์ทองคำไว้ ยังถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและอาจจะให้ผลตอบแทนโดยรวมที่ดีกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ในปีนี้”

อย่างไรก็ตาม การประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในคืนวันที่ 26 กรกฎาคม จึงเป็นสิ่งที่จะชี้วัดภาพรวมทิศทางครึ่งหลังของปี 2566 นายพีระพงศ์ กล่าวทิ้งท้าย

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon