มิติหุ้น – รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์และพลาสติกแปรรูปชั้นนำของโลก เปิดเผยว่า ในไตรมาสแรกของปีบัญชี 66/67(เม.ย.66 – มิ.ย.66) บริษัทมีรายได้จากการขาย 2,986 ล้านบาท โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขาย 2,843 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 32% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 30 – 33% มีกำไรสุทธิ 309 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% โดยแบ่งการดำเนินงานตาม 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ดังนี้
ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex มีรายได้จากการขาย 900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้วยคุณสมบัติของฉนวน Aeroflex ที่ตอบโจทย์การประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมส่งผลให้ Aeroflex เป็นที่ยอมรับจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยยอดขายในสหรัฐอเมริกายังคงเติบโตต่อเนื่องจากความต้องการสินค้าเกรดพรีเมี่ยม และสินค้ารุ่นใหม่สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรม Ultra Low Temperature Insulation และ ระบบ Air Ducting system ซึ่งได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี ขณะที่ยอดขายในประเทศปรับตัวดีขึ้นตามการลงทุนภาคเอกชน
ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas มีรายได้จากการขาย 1,447 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้วยสถานการณ์ชิปขาดแคลน (Semiconductor Shortage) ทั่วโลกเริ่มคลี่คลาย อุตสาหกรรมยานยนต์สามารถผลิตได้อย่างต่อเนื่อง Aeroklas มุ่งเน้นผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ที่มีน้ำหนักเบาซึ่งเป็นที่ต้องการในอุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากมีส่วนช่วยในการประหยัดพลังงาน ประกอบกับยานยนต์รุ่นใหม่ได้ทยอยออกสู่ตลาด ส่งผลให้ Aeroklas ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจในยุโรปชะลอตัวลง
สำหรับธุรกิจในออสเตรเลียยอดขายชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทรับรู้รายได้จากการซื้อกิจการ 4 Way Suspension Products Pty. Ltd ออสเตรเลีย ทั้งนี้ ธุรกิจในออสเตรเลียยังคงเผชิญกับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ และความล่าช้าในการส่งมอบยานยนต์เข้าสู่ตลาดในออสเตรเลีย
ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP มีรายได้จากการขาย 639 ล้านบาท ลดลง 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากยอดสั่งซื้อบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทกล่องใส่อาหารชะลอตัวลง แต่บรรจุภัณฑ์ประเภทถ้วยน้ำดื่มเริ่มปรับตัวดีขึ้น บริษัทยังเน้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยเฉพาะกลุ่มบรรจุภัณฑ์ประเภทถ้วยน้ำดื่ม บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการปรับกลยุทธ์และกระบวนการผลิต และพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้นในอนาคต
บริษัทมีต้นทุนขายสินค้า เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราที่มากกว่าการเพิ่มขึ้นของยอดขาย บริษัทได้จัดหาวัตถุดิบจากแหล่งผลิตในหลายประเทศเพื่อให้ต้นทุนเฉลี่ยจากราคาวัตถุดิบมีราคาเหมาะสม สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากการรับรู้ค่าใช้จ่ายของกิจการใหม่ 4 Way Suspensions ในออสเตรเลีย อย่างไรก็ตาม ค่าขนส่งของธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ในสหรัฐอเมริกาลดลง
นอกจากนี้ บริษัทได้รับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าที่ 82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น59 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าที่ 23 ล้านบาท มาจากการเพิ่มขึ้นของธุรกิจยานยนต์และธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ทั้งในและต่างประเทศ
รศ.ดร.เฉลียว กล่าวต่อว่า นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 66 เป็นต้นไป ยอดขายกลุ่มชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์เริ่มปรับตัวดีขึ้น อัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization Rate) เร่งตัวขึ้น จากการส่งสินค้าให้กับค่ายยานยนต์ได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP สามารถเติบโตได้ต่อเนื่องจากการปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบทุกกลุ่มเป้าหมาย และ ธุรกิจเรือธง ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex สามารถเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยคาดว่ายอดขายของบริษัทในปีบัญชี 66/67 (เม.ย.66 – มี.ค.67) จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ประมาณ 10% และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 30 – 33%
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon