ในปี 2566 สัญญาณประเทศมหาอำนาจ เช่น สหรัฐฯ เยอรมนี อิตาลี รวมถึงประเทศไทย หันมาถือ“สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสภาวะความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ และวิกฤตต่างๆที่ถาโถมเข้ามาตั้งแต่ต้นปี ทำให้หลายคนเลือกลงทุนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่เข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นกว่า 60.20% ในรอบ 10 ปี จาก 152.41 ในต้นปี 2556 มาอยู่ที่ 244.16 ตันในสิ้นปี 2565
อีกทั้งดีมานด์ทองคำรวมทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น 7% มาอยู่ที่ 1,255 ตัน ใน Q2/66 รับแรงหนุนจากความต้องการของนักลงทุนและธนาคารกลาง รวมถึงดีมานด์ของประเทศจีนกลับมาฟื้นตัว และการซื้อของผู้บริโภคในตุรกีที่เติบโตอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนถึงตลาดทองคำทั่วโลกยังคงมีความแข็งแกร่ง
ราคาทองคำจะไปต่อได้หรือไม่?
ด้านบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ YLG เปิดเผยว่า ภาพรวมราคาทองคำในครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก และมีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่ จาก 3 ปัจจัยหลักคือ 1.ความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย 2.สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังคงยืดเยื้อ และ 3.ประเทศจีนทำการสะสมทองคำเพิ่มอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลา 7 เดือน อยู่ที่ 2,092 ตัน ในเดือน พ.ค. 2566 พร้อมให้เป้าราคาทองคำปี 66 แตะ 2,075-2,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
เช่นเดียวกับ บริษัท ออสสิริส จำกัด ที่มองว่า ครึ่งปีหลัง ทองคำยังน่าลงทุน และมีโอกาสไปต่อได้ โดยคนรุ่นใหม่มีความสนใจเรื่องการลงทุนทองคำเพิ่มขึ้นถึง 60% รวมถึงสถิติราคาทองคำในไทยและทองคำในตลาดโลกปรับตัวขึ้นมาตลอดเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าเกือบทุกเดือนในปี 2566 พร้อมลุ้นราคาทองคำครึ่งปีหลังแตะ 2,100 ดอลล่าร์/ออนซ์ และปี 2567 ราคาทองน่าจะมีการปรับตัวขึ้นรอบใหญ่ จากปัจจัย FED ลดดอกเบี้ยลง 0.25% กลับมาอยู่ที่ระดับ 5.00-5.25% จึงแนะนำปรับสัดส่วนพอร์ตลงทุนในปี 2566 ให้มีสินทรัพย์ทองคำอย่างน้อย 5 – 10% อาจให้ผลตอบแทนโดยรวมที่ดีกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ในปีนี้
ลุ้นราคาทองคำปลายปีรีบาวด์แรง
บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด วิเคราะห์ “ราคาทองคำ” วันที่ 18 ส.ค. 2566 ระบุว่า ขาขึ้นของตลาดหุ้นกำลังใกล้ถึงทางตันในปีนี้ โดยกระแสเงินจะไหลกลับฝั่งไปหา Dollars ทองคำ พันธบัตรรัฐบาล หรือหันไปถือเงินสดเพิ่มมากขึ้น เสริมสภาพคล่องในเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่จะถึงอย่าง เศรษฐกิจถดถอย การล้มละลาย การผิดนัดชำระหนี้ เป็นต้น
พร้อมแนะกลยุทธ์ในระยะสั้นรอย่อซื้อที่ 1,880 ได้ แต่ภาพยาวเก็บไปเรื่อยๆ ปลายปีนี้จะได้เจอทองคำรีบาวด์แรงมาก ขายระยะสั้นที่ 1,915 ภาพยาวอาจ New High ได้ และให้กรอบแนวต้าน 1,915 หรือ 32,000 บาท แนวรับ 1,880 หรือ 31,700 บาท
สุดท้ายคงต้องมาติดตามดูกันว่า ทิศทางราคาทองคำหลังจากนี้จะสามารถเติบโตไปอยู่ที่ระดับเท่าไหร่ จะมีปัจจัยอะไรเข้ามาหนุนให้ราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้นอีกหรือไม่ คงต้องมารอลุ้นกัน….
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon