มิติหุ้น – นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (LEO) กล่าวว่า ความสำเร็จในครั้งนี้ ตอกย้ำถึงการบริหารจัดการองค์กรที่เป็นเลิศ และการสนับสนุนคู่ค้าให้เติบโตไปด้วยกัน โดยยึดหลัก Quality Policy 4 ที่ดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อันประกอบด้วย High-Customer Satisfaction (H.C.S.) – สร้างความพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า,Excellent Working System (E.W.S.) – ระบบงานที่เป็นเลิศ ,Quality Human Resource (Q.H.R.) – พนักงานมีคุณภาพ และ Healthy Group of Companies (H.G.C.) – เป็นองค์กรที่มีความมั่นคง จนได้รับความเชื่อถือจากลูกค้าและคู่ค้า ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียขององค์กร ตลอดจนพนักงานของบริษัทฯ ขณะเดียวกัน LEO ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ อีกทั้งใส่ใจในบุคลากรขององค์กร เพราะเชื่อว่า ทุกคน…คือกำลังสำคัญช่วยผลักดัน ด้วยคุณภาพ มีใจบริการ มีคุณธรรม เปิดกว้างในการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ตามค่านิยม หรือ LEO Core Values ขององค์กร เพื่อปลูกฝังให้พนักงานมีแนวความคิด และหลักการในการทำงานเดียวกัน
ตลอดระยะเวลา 33 ปีที่ผ่านมา ทางบริษัทฯ ได้มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจและสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 นี้ ทางบริษัทฯ ได้มีกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจแบบ 365 Degree Collaboration คือการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งภายในอุุตสาหกรรมโลจิสติกส์และนอกอุุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยทำให้ LEO สามารถขยายธุรกิจและขยายการให้บริการได้ครบวงจรมากขึ้น รวมถึงมีฐานของลูกค้าใหม่ได้หลากหลายมากขึ้น ต่อยอดธุุรกิจของเราให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการสร้างความยั่งยืนในมิติของสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีโครงการส่งเสริมและสนับสนุนเยาวชนที่เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการต่อยอดด้านการศึกษา ในโครงการ “ผลิตบัณฑิตปริญญาตรี สาขาวิชาการจัดการซัพพลายเชนธุรกิจ แขนงวิชาธุรกิจพาณิชยนาวี” ที่ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ซึ่งปัจจุบัน นักศึกษาทุนรุ่นที่ 1 ที่อยู่ในโครงการจำนวน 8 คน สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ในสาขาดังกล่าว และได้รับการบรรจุเข้าเป็นพนักงานประจำของ LEO เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในปี 2566 นักศึกษาทุนรุ่นที่ 2 จำนวน 7 คน ได้เริ่มเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา พร้อมกับฝึกงานที่บริษัทฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นที่ภาคภูมิใจของบริษัทฯ ที่สามารถสร้างการจ้างงานและสร้างบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในธุรกิจโลจิสติกส์ได้มากขึ้น
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา LEO ยังเป็นบริษัทแรกที่ประกาศการให้บริการGreen Logistics ที่สามารถลดภาวะโลกร้อนและเปลี่ยนให้เป็น Carbon Credit ให้กับลูกค้าของเรา ด้วยการใช้รถพลังงานไฟฟ้าและการขนส่งทางราง ลดการใช้พลังงานที่ก่อให้เกิดมลพิษหรือก่อให้เกิดขยะ มุ่งเน้นการลดมลพิษทางอากาศจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยบริษัทฯ มีแผนร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจในการพัฒนาบริการขนส่งและการกระจายสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อลดการใช้พลังงานที่ก่อให้เกิดมลพิษหรือก่อให้เกิดขยะ มุ่งเน้นการลดมลพิษทางอากาศจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยมีเป้าหมายที่จะลดภาวะโลกร้อนและเปลี่ยนเป็น Carbon Credit ให้กับลูกค้าของเรา และทำให้ลูกค้าของเราได้รับการยอมรับในการดำเนินธุรกิจในระดับนานาชาติโดยเฉพาะในทวีปยุโรปที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG และการลด Carbon Footprint เป็นอย่างมาก
“การได้รับรางวัลทั้ง 2 สาขานี้ สะท้อนถึงความสามารถในการบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ และสร้างองค์กรให้มีความยั่งยืนได้ในทุกมิติ จนทำให้บริษัทเป็นองค์กรด้านผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร (End-to-End Logistics Service Provider) อันดับต้นๆ สายเลือดคนไทยที่ยืนหยัดอยู่ในอุตสาหกรรมผู้ให้บริการโลจิสติกส์ มายาวนานกว่า 33 ปี” นายเกตติวิทย์ กล่าว
สำหรับรางวัล Asia Pacific Enterprise Awards จัดขึ้นโดย Enterprise Asia องค์กรอิสระที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อยกย่องบริษัทชั้นนำทั่วเอเชียที่ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจ และรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม ในฐานะผู้นำของแต่ละอุตสาหกรรม ช่วยขับเคลื่อนภูมิภาคเอเชียไปสู่ความก้าวหน้าทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon