มิติหุ้น – JMT โดยบล.เคจีไอ ระบุว่า ยอดเก็บเงินสดของJMT แข็งแกร่งติดต่อกันสองไตรมาสแล้ว จากการบริหารจัดการพอร์ตของบริษัทเองและของJV ได้แก่ JKAMC เนื่องจากบริษัทซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่บริหารเองเป็นจำนวนมากถึงประมาณ 6-7 หมื่นลบ. ในQ2/66 และทำให้ยอดครึ่งปีแรกเกือบ 1 แสนลบ. ทำให้มีสินทรัพย์ใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาในพอร์ต ทำให้ยอดเก็บเงินสดของบริษัทเร่งตัวขึ้นในงวดครึ่งหลังปี 66
ทั้งนี้ ใช้สมมุติฐานยอดเก็บเงินสดในปีนี้จากพอร์ตที่บริษัทบริหารเอง 7 พันลบ. และจากพอร์ตที่JKAMC บริหาร 3.6 พันลบ. คิดเป็นยอดเก็บเงินสดรวมที่ 1.05 หมื่นลบ. และ D/E อยู่ในระดับต่ำกว่า 1 เท่า ดังนั้นการซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเข้าพอร์ตเพิ่มขึ้นในปีนี้และปี 67 จึงจะทำให้รายได้ในรูปเม็ดเงินของบริษัทเพิ่มขึ้น แม้ว่าYield ของสินทรัพย์จะไม่น่าประทับใจ โดยเราใช้สมมุติฐานว่าบริษัทจะซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพปีละ 1 หมื่นลบ. ในปี 66/67 และลดลงมาเหลือ 5 พันลบ.ในปี 68 ในขณะที่คาดว่ายอดเก็บเงินสดในปี 66/67 จะอยู่ที่ 1.05-1.3 หมื่นลบ.
พอร์ตสินทรัพย์ที่ใหญ่ขึ้นช่วยให้รายได้ในแง่เม็ดเงินของบริษัทยังคงสูง นอกจากนี้รายได้จากการเก็บหนี้กับต้นทุนดำเนินงาน พบว่าดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบก่อนและหลังโควิดระบาด และจะยิ่งดีขึ้นไปอีกหากรวมผลการดำเนินงานของJKAMC เข้ามาด้วย ซึ่งเป็นผลจากการคุมต้นทุนดำเนินงาน และต้นทุนการซื้อหนี้ที่ดี โดยอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 80% ในปัจจุบัน จากก่อนโควิดระบาดอยู่ในช่วง 70-72% เพราะซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพได้ในราคาถูก
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 60 บาท
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon