TOP วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

385

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังตลาดกังวลอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกว่า 2% จากความกังวลอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว หลังซาอุดิอาระเบียและรัสเซียขยายกรอบเวลาการปรับลดกำลังการผลิตว่า 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไปจนถึงสิ้นปี ขณะที่คาซัคสถานปรับลดกำลังผลิตลงเพื่อปิดซ่อมบำรุง

+ วานนี้ (12 ก.ย.) ในรายงานประจำเดือน ก.ย. กลุ่ม OPEC ได้เปิดเผยการคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันของโลก ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอีก 2.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี 2567 เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโลกในปีหน้าที่มีแนวโน้มดี ขณะที่ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันจะเติบโตขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า

+ EIA คาดปริมาณน้ำมันดิบคงคลังทั่วโลกจะลดลงเกือบ 5 แสนบาร์เรลต่อวันในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ส่งผลให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น โดยคาดการณ์ราคาน้ำมันเบรนท์เฉลี่ยอยู่ที่ 93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในไตรมาสที่สี่ของปีนี้

หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เปิดเผย ตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 8 ก.ย. 66 ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 1.174 ล้านบาร์เรล สวนทางจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลง 2 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน : ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันเบนซินของอินเดียในเดือน ส.ค. ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 3.68% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ขณะที่อุปสงค์ของญี่ปุ่นในเดือนก.ย. มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน หลังรัฐบาลประกาศขยายเวลาอุดหนุนน้ำมันเชื้อเพลิง

ราคาน้ำมันดีเซล : ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังของภูมิภาคมีแนวโน้มตึงตัว ขณะที่อุปทานน้ำมันดีเซลมีแนวโน้มลดลงการจากปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในยุโรป

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon