ราคาน้ำมันดิบแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน จากความกังวลอุปทานตึงตัว
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือนและคิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้นกว่า 26% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งนับเป็นการปรับเพิ่มขึ้นมากสุดนับตั้งแต่เกิดสงครามรัสเซียและยูเครน หลังตลาดกังวลอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว จากการขยายระยะเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตของซาอุดีอาระเบียที่ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และการปรับลดการส่งออกของรัสเซียที่ 0.3 ล้านบาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นปีนี้
+ เศรษฐกิจจีนในเดือน ส.ค. 66 ปรับตัวดีขึ้นกว่าเดือนก่อนหน้า หลังรัฐบาลใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับเพิ่มขึ้น 4.5% จากปีก่อนหน้า สูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ปรับขึ้น 3.7% ขณะที่ยอดค้าปลีกปรับเพิ่มขึ้น 4.6% สูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ปรับขึ้น 2.5%
+ ปริมาณการกลั่นของโรงกลั่นในจีนเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบประวัติการณ์ที่ 15.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นกว่า 20% จากปีก่อนหน้า หลังความต้องการใช้ในประเทศและการส่งออกเพิ่มขึ้น
– ปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สองและนับเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 65 โดย Baker Hughes รายงานปริมาณการขุดเจาะเพิ่มขึ้น 9 แท่น สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 15 ก.ย.
ราคาน้ำมันเบนซิน : ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่มีแนวโน้มลดลงในช่วงการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่น นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 สัปดาห์
ราคาน้ำมันดีเซล : ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในฝั่งตะวันตกยังคงตึงตัวเนื่องจากปัญหาการปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินของโรงกลั่นหลายแห่งในยุโรปและสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon