‘SO x GAIA labs’ กลุ่ม Venture Capitalists ระดับโลก ดึงเมกะเทรนด์ AI และ Web3 สร้างปรากฎการณ์ครั้งแรกในไทยพลิกโฉมธุรกิจ Outsource ยกระดับสร้าง NEW S-Curve ใหม่อีกขั้น หนุนรายได้และกำไรเติบโตก้าวกระโดด

78

มิติหุ้น – นายณัฐพล วิมลเฉลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO ผู้นำและผู้เชี่ยวชาญธุรกิจ Tech-enabled Outsource แบบครบวงจรมากว่า 40 ปี เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ต่อยอดความแข็งแกร่งให้กับการดำเนินงานในฐานะเป็นผู้ประกอบการด้าน Outsource Service แบบครบวงจรเพียงหนึ่งเดียวที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยจับมือกับ GAIA labs ซึ่งเป็นกลุ่ม Venture Capitalists ระดับโลกจาก Silicon Valley ประเทศสหรัฐอเมริกา จัดงาน GAIA labs|SO Global Partnership Summit 2023 Bridge to the Future ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีหลายราย เช่น หมอคิด หรือ นายแพทย์ศุภชัย ปาจริยานนท์ นักธุรกิจและนักลงทุน ผู้สร้างแรงบันดาลใจระดับนานาชาติ ซึ่งเป็น Co-Founder และ CEO RISE Accelerator ของสถาบันเร่งการเติบโตให้กับธุรกิจสตาร์ทอัพ และผู้จัดการกองทุน SEAX Ventures สำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพภายใต้ความร่วมมือกับ RISE ร่วมด้วย คุณ Yat Siu ผู้ก่อตั้ง Animoca Brands ยูนิคอร์นด้าน Web3 ซึ่งเป็นก้าวใหม่ของโลกอินเตอร์เน็ตไร้ตัวกลางที่สามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติ คล้ายมนุษย์ ฉลาดมากขึ้น และรองรับเทคโนโลยีอัจฉริยะได้ จากประเทศฮ่องกง เป็นต้น

ทั้งนี้ การงานดังกล่าว มีเป้าหมายต้องการมุ่งเน้นการพัฒนาและนำเมกะเทรนด์ และนวัตกรรมระดับโลกมาต่อยอดธุรกิจ Outsource ของบริษัทฯ ภายใต้พันธกิจในการเป็นผู้นำพาลูกค้าของ SO เร่งปรับเปลี่ยนระบบการทำงานให้ทันตามโลกปัจจุบันที่หมุนไวกว่าเดิม โดย SO มุ่งมั่นคิดค้นพัฒนาและจะเป็นผู้นำการมอบบริการที่ดีไปพร้อมกับ Cutting-Edge Technology ที่ล้ำสมัย ผสานการทำงานร่วมกัน Workforce และ Lean Operation ตอบโจทย์ธุรกิจอย่างที่ดีที่สุดพร้อมช่วยสร้างความเจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดดและยั่งยืนให้กับลูกค้าทุกราย โดยการจับมือกับ GAIA labs ซึ่งเป็น Silicon Valley-Based Accelerator ทำให้ SO สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เป็นเมกะเทรนด์ด้านเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น Web3 และ AI โดย SO พร้อมจะเป็นผู้เชื่อมเทคโนโลยีดังกล่าวให้กับลูกค้าทุกคนได้สามารถเข้าถึงนวัตกรรมระดับโลกได้  

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า SO ต้องการพลิกโฉมธุรกิจของ Outsource Service จากการส่งคนรับจ้างทำงานทั่วไปให้เป็น Tech-Enable Outsourcing Solution โดย SO จะเป็นผู้ทำหน้าที่ช่วยงานสนับสนุนอื่นๆ เพื่อให้ลูกค้าได้ไปโฟกัสในการทำงานที่เป็นแกนของธุรกิจ (Core Function) ได้อย่างเต็มที่ เริ่มจากการทำ Digital Transformation การช่วยวางกลยุทธ์ด้านกระบวนการทางธุรกิจและทำให้ระบบต่างๆ ภายในองค์กรของลูกค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดภาระการบริการงาน ประหยัดเวลาและลดค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าได้ 20-30% ต่อปี รวมถึง SO ยังเป็นพันธมิตรช่วยดูแลเรื่องเทคโนโลยีต่างๆ (Technology Sourcing Partner) อาทิ แนะนำการใช้ Framework ในการ Transformation โดย SO ได้เป็นพาร์ทเนอร์กับ Ionology บริษัทที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็น Framework ที่นำมาปฎิบัติใช้ได้จริง รวมถึงการทำ AI และ Web3 ที่เป็นนวัตกรรมระดับโลก เพื่อช่วยลดต้นทุนในด้านต่างๆ อย่างมีนัยสำคัญให้ลูกค้ามีผลตอบแทนจากการทำกำไรที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นการยกระดับ NEW S-Curve ให้กับ SO มีการเติบโตทั้งด้านรายได้และผลกำไรแบบก้าวกระโดด พร้อมความยั่งยืนในธุรกิจให้กับลูกค้า โดย SO มีแผนที่จะร่วมมือกับ Christopher Nguyen ซึ่งเป็น Founder and CEO ของ AITOMATIC เพื่อทำ Domain-Specific AI หรือ AI ที่ออกแบบมาสำหรับภาคอุตสาหกรรมซึ่งถูกเทรนข้อมูลเชิงลึกโดยผู้เชี่ยวชาญในองค์กรที่ไม่ใช่ข้อมูลสาธารณะทั่วไป

“เราพร้อมสนับสนุนและผลักดันการทำงานต่างๆ ในการนำนวัตกรรมใหม่ๆ ของโลก มาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของลูกค้าให้ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าของ SO มั่นใจในนวัตกรรมเหล่านี้จะนำมาปรับใช้และช่วยให้ดำเนินธุรกิจในไทยได้อย่างยั่งยืน” นายณัฐพลกล่าว

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon