TOP วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

194

ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังกังวลเฟดคงอัตราดอกเบี้ย
ท่ามกลางรัสเซียประกาศระงับส่งออกน้ำมันทั่วโลก

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส และเบรนท์ปรับตัวลดลง หลังยังคงได้รับแรงกดดันต่อเนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25 – 5.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี อีกทั้งส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ และส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีหน้า ส่งผลให้ตลาดมีความกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมัน

+ รัสเซียประกาศระงับการส่งออกน้ำมันเบนซินและดีเซลเป็นการชั่วคราวต่อทุกประเทศในโลก ยกเว้นอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียต ได้แก่ เบลารุส คาซัคสถาน อาร์เมเนีย และคีร์กีซสถาน โดยมีผลบังคับใช้ในทันทีเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดเชื้อเพลิงในรัสเซีย หลังหลายพื้นที่ในรัสเซียขาดแคลนน้ำมันเบนซินและดีเซลในช่วงที่ผ่านมา

+/- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกปรับลดลง 20,000 ราย สู่ระดับ 201,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 225,000 ราย และเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนม.ค. 66

ราคาน้ำมันเบนซิน : ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในฟิลิปปินส์ลดลง อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากปริมาณการส่งออกของอินเดียในเดือนส.ค. 66 ที่ปรับลดลง 6.69% จากเดือนก่อนหน้า เป็นผลจากอุปทานภายในประเทศที่ปรับลดลงในช่วงการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่น

ราคาน้ำมันดีเซล : ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานของเวียดนามปรับลดลงในช่วงปิดซ่อมบำรุงตามแผนของโรงกลั่นภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ในอินเดียที่ปรับลดลงจากภาคการเกษตร

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon