เปิดโผ 15 หุ้น หลบภัยต่างชาติ

5333

จากปัจจุบันต่างชาติถือหุ้นไทยน้อยลง โดย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ถือครองทางตรงเพียง 23.9% (หรือถือครองเพียง 18.7% กรณีไม่รวมหุ้น DELTA) แต่มีการซื้อขาย หุ้นไทยที่ร้อนแรงมาก โดยล่าสุดมีสัดส่วนการซื้อขายหุ้นไทย 50.8% สูงกว่านักลงทุนรายย่อย + พอร์ตโบรกเกอร์ + นักลงทุนสถาบันฯ ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 49.2% (ส่วนหนึ่งมาจากการซื้อขายผ่านระบบ Algo Trade ที่สูงขึ้นเป็น 35% ของการซื้อขายทั้งหมดในตลาด) หนุน Turnover สูงขึ้นมาก

 

สัดส่วนต่างชาติถือครองสัดส่วนไม่มาก

 

โดยปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติหนุนการซื้อขายหุ้นไทยสูงถึง 2.47 เท่า ของนักลงทุนไทยทั้งหมด ผิดกับช่วง 10 ปี ที่แล้ว ที่ต่างชาติยังซื้อขายหุ้นไทยน้อยกว่าคนไทยพอสมควรนำโดยกลุ่มปันผลสูงได้แก่ SC มีสัดส่วนต่างชาติ 2.1% , TTW มีสัดส่วนต่างชาติ 2.4%, TTCL มีสัดส่วนต่างชาติ 13.6%, ORI มีสัดส่วนต่างชาติ 4.2%, LH มีสัดส่วนต่างชาติ 13.6%, SPALI มีสัดส่วนต่างชาติ 20.5%, AP มีสัดส่วนต่างชาติ 23.7%

 

2.กลุ่มหุ้นที่อิงเศรษฐกิจจีนฟื้น ได้แก่ SCGP มีสัดส่วนต่างชาติ 4.2%, AMATA มีสัดส่วนต่างชาติ 8.9%, III มีสัดส่วนต่างชาติ 12.4% และ3.กลุ่มหุ้นที่ได้กระการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไทย ได้แก่ BEM มีสัดส่วนต่างชาติ 8.1%, TTCL มีสัดส่วนต่างชาติ 13.8%, CK มีสัดส่วนต่างชาติ 17.7%, CPN มีสัดส่วนต่างชาติ 21.3%, ERW มีสัดส่วนต่างชาติ 7.4% และ AOT มีสัดส่วนต่างชาติ 8.6% (ดูตารางประกอบ)

 

แนะเลี่ยงหุ้นกระทบบอนด์ยิลด์พุ่ง

 

อย่างไรก็ตามยังมีกลุ่มหุ้นที่ต้องระวังการลงทุนช่วงนี้ จากบทวิเคราะห์ บล. ทรีนีตี้ระบุว่า ในระหว่างนี้ การปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ของ Bond yield จะส่งผลลบ ต่อกลุ่มที่เป็น Rate-sensitive อย่าง Finance และ Property โดยเฉพาะตัวที่มี High leverage ที่จะมีความเสี่ยงเผชิญต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นในช่วงถัดไป นอก จากนั้นอาจต้องระวัง แรงขายที่อาจเกิดขึ้นกับกลุ่ม Bond-like ที่มีปันผลสูงอย่าง REIT/ PFUND/IFF รวมถึงกลุ่ม Utilities ที่จะมีความน่าสนใจลดลง จาก Dividend yield gap ที่ปรับตัวลดลงด้วยเช่นกัน

 

ชู 5 หุ้นน่าลงทุนรับกระแสฟันด์โฟลว์ปลายปี

 

 

ปิดท้ายมุมมองของ ดร.นิพนธ์ สุวรรณประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ สถาบันการลงทุน QIQP บล.ไอร่า ระบุว่า คาดช่วงเดือน ต.ค.66 กระแสฟันด์โฟวล์จะเริ่มไหลกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย เนื่องจากเป็นช่วงที่กองทุนทั่วโลกเริ่มปรับพอร์ตครั้งใหญ่ และตลาดหุ้นไทยจะเป็นตลาดที่น่าสนใจที่สุด เพราะนโยบายการอัดฉีดเงินเข้าระบบ 5.6 แสนลบ.ผ่านนโยบายแจกเงิน 10,000 บ.ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตหนุนจีดีพีไทยโตระดับ 5-6% ต่อปี ซึ่งถือเป็นประเทศแรกๆที่ฟันด์โฟลว์จะไหลเข้า อย่างไรก็ตามแนะ 5 หุ้นที่น่าสนใจคือ KCE HANA CBG BCGP SCGP THCOM แถมแนะลงทุนเก็งกำไรตามรอบ

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon