ช่วงต้นปีตลาดหุ้น IPO ค่อนข้างซบเซา ภาวะตลาดหุ้นไม่เอื้อ เผชิญปัจจัยลบรุมเร้าจากปัญหาเศรษฐกิจโลกถดถอย ดอกเบี้ยขาขึ้น เงินเฟ้อสูง ขณะที่ปัจจัยในประเทศอยู่ในช่วงของการเลือกตั้ง และเจอปัจจัยลบอีกเด้งจากปัญหาความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทยถดถอยจากเคสหุ้น MORE และ STARK ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นร่วงหล่นหลุด 1,500 จุด ในช่วงที่ผ่านมา จากต้นปี 66 อยู่ระดับ 1,670 จุด
ด้วยปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้น IPO หลายๆ ตัวต่ำจอง พิจารณาได้จากจำนวนหุ้น IPO เข้าเทรดตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจับมีจำนวน 22 บริษัท แบ่งเป็น SET จำนวน 9 บริษัท และ mai จำนวน 13 บริษัท โดยราคาปัจจุบัน ณ วันที่ 22 ก.ย. 66 มีหุ้นที่ราคายังต่ำจองอยู่ถึง 13 บริษัท ทำให้เกิดการตั้งข้อสังเกตว่า อาจถึงกาลอวสานของหุ้น IPO
แต่ปรากฎว่ากระแสการลงทุนหุ้นไอพีโอถูกปลุกให้น่าสนใจอีกครั้ง ภายหลังการเข้าเทรดของหุ้นไอพีโอน้องใหม่ 3 ตัวล่าสุด ซึ่งเข้าเทรดในเดือนก.ย. นี้ เริ่มจาก GCF ตามมาด้วย COCOCO ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมาก และปิดท้ายด้วย SINO หุ้นทั้ง 3 ตัวนี้สามารยืนสู้ตลาดที่มีการปรับตัวลงได้ ทำให้คาดว่าแล้วโน้มหุ้น IPO จะเริ่มฟื้นตัวขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ยังต้องรอติดตามกันต่อไป
รอหุ้นใหญ่เข้ามาจุดกระแส IPO
นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด เผยว่า แนวโน้มหุ้น IPO ดูดีขึ้น ซึ่งหลังจัดตั้งรัฐบาลถือว่ามีผลอย่างมาก ในการรอนโยบายจากทางภาครัฐ แต่อาจต้องดูเป็นหุ้นรายตัว ดูพื้นฐานว่าไปตามเทรนเศรษฐกิจไหม และเทียบราคาขายกับราคาเหมาะสม
แต่ทั้งนี้ที่ผ่านมาหุ้น IPO มีแต่รายเล็กๆ เข้าตลาด ยังไม่มีรายใหญ่เข้าตลาด ประกอบกับปริมาตรการซื้อขายยังน้อย รวมถึง Fund Flow ที่ยังไหลออก ทำให้ฟื้นตัวไม่ได้เต็มที่ หากมีหุ้นใหญ่เข้ามาและได้ผลตอบรับที่ดี เชื่อว่าหุ้น IPO จะกลับมานิยมอีกครั้ง
เลือกลงทุนในหุ้นตามแนวโน้มอุตสาหกรรมและเมกะเทรนด์ในอนาคต
นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด กล่าวว่า แม้หุ้น IPO ดูเหมือนจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก อีกทั้งการจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ แต่ภาพรวมในตลาดก็ไม่ได้ดีตามคาด ทำให้ยังมีความผันผวน รวมถึงภาวะตลาดโลกที่ยังชะลอตัว หุ้น IPO จึงยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ อาจต้องเลือกหุ้นเป็นรายตัว ดูจากผลการดำเนินงานและแนวโน้มอุตสาหกรรม เมกะเทรนด์ในอนาคต อาทิ ศัลยกรรม เทคโนโลยี เป็นต้น
ไอบีในวงการตลาดหุ้นอีกรายกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ในวงการต่างวิพากษ์การทำงานของหน่วยงานกำกับในแง่เกณฑ์การรับหลักทรัพย์ที่หย่อนยาน ปล่อยให้หุ้นเน่าหลายตัวเข้ามาเทรด แต่ในฐานะทำหน้าที่ที่ปรึกษานำหุ้นเข้าตลาดหุ้น พบว่าในปีนี้การทำงานของก.ล.ต. เปลี่ยนแปลงไป พบว่าเพิ่มความเข้มงวดในการพิจารณามากขึ้น การกลั่นกรองเข้มข้นขึ้นกว่าปีที่แล้ว
สัมผัสได้จากการตรวจ Working papers การซักถาม และตรวจสอบข้อมูลที่เยอะขึ้น และพบว่าหุ้นหลายตัวได้ถอนไฟลิ่งเพื่อยื่นแบบไฟล์ลิ่งอีกครั้ง ดังนั้นอยากให้นักลงทุนเชื่อมั่นต่อหุ้นไอพีโอว่าได้รับการตรวจสอบ ไม่มีกรณีตีหัวเข้าบ้านอย่างที่มีกระแสข่าวลืออย่างแน่นอน
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon