TOP วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

166

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงกว่า 5 เหรียญฯ จากแรงเทขาย
หลังอุปสงค์น้ำมันเบนซินในสหรัฐฯซบเซา

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลงกว่า 5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เนื่องจากความต้องการใช้เชื้อเพลิงในสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงจากเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายรัฐ ประกอบกับสต็อกน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 6.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.2 ล้านบาร์เรล

– /+ ค่าการกลั่นของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำกว่า 20 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง ซึ่งสะท้อนถึงอุปสงค์การใช้น้ำมันที่ยังอ่อนแอจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงและสภาวะเศรษฐกิจถดถอย ท่ามกลางการปรับลดกำลังการผลิตของซาอุดิอาระเบียและรัสเซีย และจากการประชุมของกลุ่ม OPEC+ เมื่อวานนี้ ยังคงมีมติคงนโยบายการลดการผลิตน้ำมันดิบไปจนถึงสิ้นปี 67

 + สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 29 ก.ย. 66 ปรับตัวลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 414.1ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดตั้งแต่ ธ.ค. 65 โดยปรับลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.4 ล้านบาร์เบล เนื่องจากการส่งออกน้ำมันดิบที่สูงอย่างต่อเนื่องและการนำเข้าที่อยู่ในระดับต่ำ

ราคาน้ำมันเบนซิน : ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบหลังอุปสงค์การน้ำมันเบนซินลดลงจากความกังวลต่อสถานการณ์น้ำท่วมในสหรัฐฯ  ท่ามกลางการปิดซ่อมบำรุงตามแผนของโรงกลั่นภายในประเทศไต้หวัน

ราคาน้ำมันดีเซล : ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังรัสเซียอาจผ่อนปรนข้อจำกัดในการส่งออกออกน้ำมันดีเซล ทั้งนี้คาดว่าจะมีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการในเร็วๆนี้

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon