TIDLOR ไตรมาส 3 กำไรสูงกว่าคาด, ยังเป็นตัวเลือกที่ดี

61

มิติหุ้น  –  ฝ่ายวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า TIDLOR รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/66 ออกมาดี ทำกำไรสุทธิได้ 1,007 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% yoy และ 9% qoq สูงกว่าประมาณการของเรา 5% ทั้งนี้กำไรดีกว่าคาดเป็นผลจาก อัตราสำรองหนี้สูญต่ำกว่าคาดที่ 3.04% จากที่เราประมาณการที่ 3.27%, ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM)  เพิ่มขึ้น 12bp qoq เป็น 15.71% เทียบกับที่เราคาดจะทรงตัว qoq

 

TIDLOR ยังมีคุณภาพสินทรัพย์โดยรวมดี เห็นได้จากอัตราส่วน NPL ที่เพียง 1.51% ต่ำกว่าประมาณการของเราที่คาดไว้ที่ 1.6% และอัตราการเกิด NPL ใหม่ 280bp นอกจากนี้พบว่า TIDLOR ยังมี Operating leverage เพิ่มขึ้น เพราะอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลดลงเหลือ 55.4% เทียบจาก 56.4% ในปี 65

 

สินเชื่อเติบโตสูงและ NIM เพิ่มขึ้น qoq เรามองว่าเป็นตัวชี้วัดการดำเนินงานโดยรวมของ TIDLOR ที่ยังคงแข็งแกร่งในไตรมาส 3  โดยยอดสินเชื่อรวมยังขยายตัว 21% yoy และ 5% qoq มาอยู่ที่ 9.19 หมื่นล้านบาท, รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจนายหน้าประกันเติบโตสูงกว่าคาดที่ 26% yoy เทียบกับประมาณการณ์ของเราที่ 23%, NIM) อยู่ที่ 15.71% เพิ่มขึ้น12bp qoq เพราะอัตราผลตอบแทนจากสินเชื่อ( loan yield) เพิ่มขึ้น 28bp qoq

 

ส่วนต้นทุนดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 26bp qoq เป็น 3.11% ทั้งนี้เราเชื่อว่า loan yield ที่เพิ่มสูงขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากอัตราการใช้งานที่เพิ่มขึ้นของบัตรกดเงินสดหมุนเวียน ซึ่งมักจะมี yield สูงกว่าผลิตภัณฑ์อื่นของ TIDLOR

 

ในไตรมาส 3 อัตราส่วน NPL ที่ 1.51%  เทียบกับสถิติสูงสุดในรอบ 4 ปีที่ 1.66% ในไตรมาส 2/63 ขณะที่เป้าหมายของ TIDLOR ตั้งไว้ที่ 1.8% อย่างไรก็ตามเพื่อคุม NPL บริษัทจึงตั้งสำรองสูงถึงราว 681 ล้านบาทในไตรมาส 3 เท่ากับอัตราการสำรองหนี้สูญ 3.04% ต่ำกว่าประมาณการของเราที่ 3.27%  เราเชื่อว่าจะทำให้ TIDLOR มีคุณภาพสินทรัพย์ดีกว่าคาด

 

ทั้งนี้ TIDLOR ยังมีการตั้งสำรองแบบ conservative มีอัตราส่วนการตั้งสำรองต่อหนี้ NPL สูงที่สุดในกลุ่มผู้ให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถของไทยที่ 264% ในไตรมาส 3

 

ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” TIDLOR ที่ราคาเป้าหมาย 34.25 บาท ยังมองว่า TIDLOR เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า SAWAD และ MTC เนื่องจาก TIDLOR น่าจะมีกำไรสุทธิเติบโตสูงถึง 22% CAGR (ปี 66-68) และมีงบดุลแข็งแกร่งขึ้นจากอัตราส่วน NPL ต่ำกว่าและอัตราการตั้งสำรองต่อหนี้ NPL สูงกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

 

เรามองว่าปัจจัยบวกที่จะช่วยหนุนราคาหุ้นคือ รายได้ที่เติบโตแข็งแกร่งและ Operating leverage ที่เพิ่มขึ้นจากแพลตฟอร์มดิจิทัล ส่วน downside risk จะมาจากความเสี่ยงด้านการก ากับดูแล, การแข่งขันที่สูงขึ้นจากสงครามราคาและคุณภาพสินทรัพย์ที่ลดลง

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon