มิติหุ้น – FLOYD โชว์ผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนของปี 2566 ทำรายได้ 298.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.33% พร้อมโกยกำไรสุทธิ 17.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.73% จากช่วงเดียวกันปีก่อน บอสใหญ่เผยดาวเด่นยังคงเป็นรายได้ที่มาจากโครงการแนวราบ และอาคารสำนักงาน มองโค้งสุดท้ายของปี ลุยส่งมอบงานและรับรู้รายได้จากงานในมือต่อเนื่อง โดยปัจจุบันตุน Backlog มูลค่ากว่า 692.59 ล้านบาท พร้อมเดินหน้างานให้บริการรับเหมาติดตั้งวิศวกรรมระบบสาธารณูปโภค และระบบดาต้าเซ็นเตอร์ มั่นใจทำรายได้ปีนี้เข้าเป้า 400 ล้านบาท
นายทศพร จิตตวีระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) หรือ FLOYD ผู้ให้บริการรับเหมาติดตั้งงานวิศวกรรมระบบสาธารณูปโภค และระบบดาต้าเซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในรอบ 9 เดือนของปี 2566 ทำรายได้ 298.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.33% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 196.10 ล้านบาท พร้อมโกยกำไรสุทธิ 17.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.73% จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10.13 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้โครงการในมือประเภทโครงการห้างสรรพสินค้า และอาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย รวมทั้ง Backlog ที่เข้ามาต่อเนื่อง
ขณะที่ในไตรมาส 3 ของปี 2566 มีรายได้รวม 107.52 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1.31 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 142.12 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 26.46 ล้านบาท ทั้งนี้ผลกำไรที่ลดลง เนื่องจากการลดลงของโครงการก่อสร้างในกลุ่มห้างสรรพสินค้า ซึ่งอยู่ในระหว่างช่วงปลายงานและกำลังจะทยอยส่งมอบ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังมีการเข้ารับงานเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยมองธุรกิจด้านศูนย์ข้อมูล (Data Center) ที่ให้ความสำคัญกับการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ ซึ่งปัจจุบันเศรษฐกิจถูกขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการในการจัดเก็บและจัดการข้อมูลเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว บริษัทฯ จึงมองเห็นโอกาสที่จะขยายขอบเขตการรับงานเพื่อให้ได้ฐานลูกค้าใหม่ โดยยังคงรักษาฐานลูกค้าเดิมซึ่งเป็นฐานรายได้ที่มั่นคง จึงนับได้ว่าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญที่สะท้อนแนวโน้มและส่งผลต่อการเติบโตของบริษัทได้
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ยังได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าโครงการโฮมโปร สาขาบางบังทอง และ โครงการ Noble Create ให้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการก่อสร้าง รับงานบริการรับเหมาติดตั้งงานวิศวกรรมประกอบอาคาร โดยมูลค่า 2 โครงการรวม 510.76 บาท เป็นงานระยะยาวอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งบริษัทจะทยอยรับรู้รายได้ตามขั้นความสำเร็จของงานตลอดระยะเวลาสัญญาระหว่าง ปี 2566-2568 ปัจจุบันได้มีความคืบหน้าของโครงการไปมาก
ถึงแม้ว่าภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2566 จะเป็นปีแห่งโอกาสและความท้าทายที่ผู้ประกอบการ ต้องเผชิญ แต่แนวโน้มจากนี้ไปภาคอสังหาฯจะปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ด้วยแผนการจัดสรรงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่กำลังกลับมา ขณะที่ปัจจัยลบต่างๆเริ่มคลี่คลาย อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจแบบเฝ้าระวังและไม่ประมาท ด้วยการควบคุมต้นทุนอย่างรัดกุม ปิดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในทุกๆ ด้าน ปักธงเน้นรักษาฐานลูกค้าเดิม ในกลุ่มห้างค้าปลีก อาคารสำนักงาน และ Data Center ที่มีการขยายตัว พร้อมกับการมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการขยายงานที่มีความท้าทาย โดยเฉพาะอาคารสิ่งปลูกสร้างที่คำนึงถึงการประหยัดพลังงานเพื่อลดภาวะโลกร้อน หรือที่เรียกว่า อาคารสีเขียว (Green building) ที่สร้างขึ้นโดยใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และมีการบริหารจัดการภายในที่เน้นการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งกำลังขยายตัวเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
“ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังมีโอกาสขยายงานและเติบโตได้เสมอ ขึ้นอยู่กับโอกาสและความเหมาะสม หากแต่เราต้องเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นรับเหมาติดตั้งงานวิศวกรรมระบบสาธารณูปโภค และระบบดาต้าเซ็นเตอร์ที่ครบวงจร รวมถึงทีมวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญ และมากด้วยประสบการณ์ คู่ขนานกับการดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง ใส่ใจเรื่องการควบคุมต้นทุนและมาตรฐานคุณภาพของงานให้ดีที่สุด พร้อมลุยประมูลงานใหม่ช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2566 ขานรับภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังกลับมาคึกคัก ทั้งนี้ปัจจุบัน FLOYD ตุน Backlog ในมือมูลค่ากว่า 692.59 ล้านบาท และคาดจะสนับสนุนรายได้ปี 2566 ให้เติบโตตามเป้า 400 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน” นายทศพร กล่าว
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon