มิติหุ้น – กำลังแข่งขันกันดุเดือดสำหรับตลาดสตรีมมิ่งในประเทศไทย หนึ่งในแพลตฟอร์มของคนไทย คือ “MONOMAX” (โมโนแมกซ์) ที่ร่วมวงอยู่ในตลาดนานมากว่า 8 ปี พร้อมการยืนหยัดจุดเด่นการเป็นซีรีส์ต่างประเทศพากย์ไทยร้อยเปอร์เซ็นต์เจ้าเดียวของไทย มั่นใจในการผลิตซีรีส์ออริจินอล โดย “โมโนออริจินอล”จะเติบโตและช่วยเสริมให้ “MONOMAX” ทำรายได้อันดับหนึ่งของธุรกิจพร้อมแตะมือพี่ใหญ่สถานีโทรทัศน์ช่อง MONO29 มาช่วยเสริมบริษัทให้มั่นคงยั่งยืน ซึ่ง คุณปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MONO ได้เผยข้อมูลกับผู้สื่อข่าวถึงทิศทางธุรกิจของปี 2023-2024 ให้ฟังว่า “ปัจจุบันธุรกิจทีวีช่อง MONO29 ยังคงเป็นอันดับหนึ่งในการสร้างรายได้ของโมโนอยู่ครับ หลายคนอาจจะมองว่ารายได้ทีวีไม่ได้เติบโตมากนักเพราะผู้ชมย้ายไปออนไลน์ แต่ในมุมของโมโนวันนี้ธุรกิจทีวียังคงเป็นรายได้หลัก สำหรับธุรกิจทีวียังคงมีความสำคัญต่อแบรนด์ในการสร้างความรับรู้ และความน่าเชื่อถือไม่เปลี่ยนแปลง ที่ผ่านมา SVOD (Subscription Video on Demand) ถือเป็นธุรกิจดาวรุ่งที่ไปได้ดี เป็นธุรกิจที่เราทำควบคู่กับการทำสถานีโทรทัศน์มานานกว่า 8 ปีแล้ว นั้นคือ MONOMAX (โมโนแมกซ์) กับรายได้ที่มาจากลูกค้าที่เข้ามาสมัครเป็นสมาชิก MONOMAX ซึ่งได้เห็นทิศทางกระแสโลกว่าจำนวนคนดูทีวีเริ่มอิ่มตัวแล้ว ในขณะที่ SVOD มันยังสามารถโตได้อีก คอนเทนต์แต่ละรายมีจุดแข่งขันต่างกันและหลากหลายแบบ long-tail จึงมีโอกาสเติบโตจากเม็ดเงินในตลาดที่ขยายตัวได้อีกเป็นไปตามเทรนด์โลก จากการสำรวจและวิจัยจะพบว่าการดูทีวีจะลดลง 10 เปอร์เซ็นต์ของทุกปี เพราะคนรุ่นใหม่จะคุ้นเคยกับการชมคอนเทนต์ทางอินเทอร์เน็ตมากกว่า และไม่ได้สนใจว่าต้องมีทีวีในห้องหรือในบ้าน ดังนั้น ธุรกิจของโมโนต่อไปนี้ จะไม่ได้พึ่งพารายได้โฆษณาทีวีอย่างเดียว จะมีรายได้ของ MONOMAX ที่เติบโตขึ้นมาคู่กัน ในขณะที่ธุรกิจของ MONOMAX มีสมาชิกตอบรับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หลังไปจับมือกับ 3BBGIGATV เมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้เราได้ไปเจอจุดขายที่เหมาะสมกันพอดี กลายเป็นว่า MONOMAX โตขึ้น 300 เปอร์เซ็นต์ทันที ในปี 2021 เพราะเราทำ hard bundling กับ 3BBGIGATV ในขณะเดียวกัน คอนเทนต์ซีรีส์จีนเป็นตัวเด่นให้คนสมัครเข้ามาเรื่อย ๆ เติบโตมากกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ปัจจุบันเรามีซีรีส์จีน 129 เรื่อง และ ซีรีส์เกาหลี 123 เรื่อง ที่สามารถให้ลูกค้าหมุนเวียนรับชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจุดเด่นของเราคือ เป็นซีรีส์จีน-ซีรีส์เกาหลี ที่มีการพากย์ไทยแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพื่อซัพพอตกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มผู้ใหญ่ที่ไม่สะดวกอ่านซับไตเติ้ล ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและพึงพอใจในการพากย์ของเรา”
“และนับจากนี้ MONOMAX จะมีคอนเทนต์หนังและซีรีส์ของตัวเอง ที่อยู่ภายใต้การผลิตของโมโนออริจินอล ประเดิมซีรีส์เรื่องแรกไปแล้วกับเรื่อง “ฟางเล่นไฟ” และภาพยนตร์ “My Next doll ยัยตุ๊กตาซ้อมรักยกกำลังสอง” รวมถึงกระแสซีรีส์เรื่องล่าสุด “เปลือกรักปมลวง HANGOUT” ที่ได้นางเอกชั้นนำของเมืองไทย คุณป๊อก-ปิยธิดา, คุณโดนัท-มนัสนันท์, คุณแพนเค้ก-เขมนิจ, คุณขวัญ-อุษามณี และ คุณชิปปี้-ศิรินทร์ มารวมตัวในซีรีส์เรื่องนี้ และกำลังจะออกอากาศทางโมโนแมกซ์ในวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ ที่ผ่านมา ในโลกโซเซียลมีการพูดถึงว่าอยากดูเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง และจะเห็นได้ว่ารายได้ของโมโนแมกซ์เติบโตขึ้น 15-25 เปอร์เซ็นต์ในเดือนนั้น ๆ ทันที”
“จากกรณีความสำเร็จที่ผ่านมา ทำให้ยิ่งมั่นใจว่าการทุ่มเทผลิตคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง ยิ่งเพิ่มการเติบโตได้ทุกเดือน โดยในวันที่ 14 ธันวาคมเดือนหน้านี้ เราจะมีการเปิดตัวผลิตซีรีส์และหนังอีก 24 เรื่อง ในงบที่เราวางไว้ 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบจัดสรรและไม่ได้ทุ่มเงินทั้งหมดในครั้งเดียว แต่จะค่อย ๆ ผลิตไปลงทุนไป โดยมีการคาดการณ์การใช้
งบในปีต่อไปของโมโนออริจินอล คือ 1 ใน 3 (ประมาณ 33%) ของงบรวมทั้งบริษัทจากเงิน 1,200-1,400 ล้านต่อปี ซึ่งจะสามารถผลิตได้ประมาณ 16-24 เรื่อง ซึ่งตอนนี้ทีมฝ่ายอินเตอร์ได้วางไลน์อัพในการนำคอนเทนต์ที่เราผลิตไปขายยังต่างประเทศแล้ว คาดว่าจะมีโอกาสที่ จะขายลิขสิทธิ์ต่างประเทศได้อีก และสามารถชดเชยต้นทุนได้ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ จากนี้จะเห็น MONOMAX ขยายตัวที่ดีต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีสมาชิก 2 ล้านรายในปี 2567 พร้อมมีเป้าหมายผลักดันรายได้กลับขึ้นมาในระดับ 2,000 ล้านบาท ภายในปี 2568-2569”
ในกรณีหลังควบรวม AIS และ 3BB การวางสถานะของทาง MONOMAX จะเป็นเช่นไร ทางคุณปฐมพงศ์ กล่าวว่า “MONOMAX เติบโตบนกล่อง 3BBGIGATV มาตลอด พอทางเอไอเอสได้ควบรวม 3BB แล้ว ทางเอไอเอสได้ทำข้อตกลงกับ MONOMAX แล้วเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับชม MONOMAX ในแพ็คเก็จเหมือนเดิม โดยทั้งสององค์กรจะต้องช่วยกันให้เติบโต โดยเฉพาะคอนเทนต์จาก MONOMAX ในช่อง 3BB ASIA ทาง 3BB GIGATV และ AIS PLAYBOX ก็ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ ซึ่งหลังการควบรวมเชื่อมั่นว่า ทิศทางธุรกิจ ความร่วมมือที่วางแผนค้างไว้จะนำมาดำเนินธุรกิจได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลว่า กำลังแข่งขันกันดุเดือดสำหรับตลาดสตรีมมิ่งในประเทศไทย หนึ่งในแพลตฟอร์มของคนไทย คือ “MONOMAX” (โมโนแมกซ์) ที่ร่วมวงอยู่ในตลาดนานมากว่า 8 ปี พร้อมการยืนหยัดจุดเด่นการเป็นซีรีส์ต่างประเทศพากย์ไทยร้อยเปอร์เซ็นต์เจ้าเดียวของไทย มั่นใจในการผลิตซีรีส์ออริจินอล โดย “โมโนออริจินอล”จะเติบโตและช่วยเสริมให้ “MONOMAX” ทำรายได้อันดับหนึ่งของธุรกิจพร้อมแตะมือพี่ใหญ่สถานีโทรทัศน์ช่อง MONO29 มาช่วยเสริมบริษัทให้มั่นคงยั่งยืน ซึ่ง คุณปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MONO ได้เผยข้อมูลกับผู้สื่อข่าวถึงทิศทางธุรกิจของปี 2023-2024 ให้ฟังว่า “ปัจจุบันธุรกิจทีวีช่อง MONO29 ยังคงเป็นอันดับหนึ่งในการสร้างรายได้ของโมโนอยู่ครับ หลายคนอาจจะมองว่ารายได้ทีวีไม่ได้เติบโตมากนักเพราะผู้ชมย้ายไปออนไลน์ แต่ในมุมของโมโนวันนี้ธุรกิจทีวียังคงเป็นรายได้หลัก สำหรับธุรกิจทีวียังคงมีความสำคัญต่อแบรนด์ในการสร้างความรับรู้ และความน่าเชื่อถือไม่เปลี่ยนแปลง ที่ผ่านมา SVOD (Subscription Video on Demand) ถือเป็นธุรกิจดาวรุ่งที่ไปได้ดี เป็นธุรกิจที่เราทำควบคู่กับการทำสถานีโทรทัศน์มานานกว่า 8 ปีแล้ว นั้นคือ MONOMAX (โมโนแมกซ์) กับรายได้ที่มาจากลูกค้าที่เข้ามาสมัครเป็นสมาชิก MONOMAX ซึ่งได้เห็นทิศทางกระแสโลกว่าจำนวนคนดูทีวีเริ่มอิ่มตัวแล้ว ในขณะที่ SVOD มันยังสามารถโตได้อีก คอนเทนต์แต่ละรายมีจุดแข่งขันต่างกันและหลากหลายแบบ long-tail จึงมีโอกาสเติบโตจากเม็ดเงินในตลาดที่ขยายตัวได้อีกเป็นไปตามเทรนด์โลก จากการสำรวจและวิจัยจะพบว่าการดูทีวีจะลดลง 10 เปอร์เซ็นต์ของทุกปี เพราะคนรุ่นใหม่จะคุ้นเคยกับการชมคอนเทนต์ทางอินเทอร์เน็ตมากกว่า และไม่ได้สนใจว่าต้องมีทีวีในห้องหรือในบ้าน ดังนั้น ธุรกิจของโมโนต่อไปนี้ จะไม่ได้พึ่งพารายได้โฆษณาทีวีอย่างเดียว จะมีรายได้ของ MONOMAX ที่เติบโตขึ้นมาคู่กัน ในขณะที่ธุรกิจของ MONOMAX มีสมาชิกตอบรับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หลังไปจับมือกับ 3BBGIGATV เมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้เราได้ไปเจอจุดขายที่เหมาะสมกันพอดี กลายเป็นว่า MONOMAX โตขึ้น 300 เปอร์เซ็นต์ทันที ในปี 2021 เพราะเราทำ hard bundling กับ 3BBGIGATV ในขณะเดียวกัน คอนเทนต์ซีรีส์จีนเป็นตัวเด่นให้คนสมัครเข้ามาเรื่อย ๆ เติบโตมากกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ปัจจุบันเรามีซีรีส์จีน 129 เรื่อง และ ซีรีส์เกาหลี 123 เรื่อง ที่สามารถให้ลูกค้าหมุนเวียนรับชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจุดเด่นของเราคือ เป็นซีรีส์จีน-ซีรีส์เกาหลี ที่มีการพากย์ไทยแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพื่อซัพพอตกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มผู้ใหญ่ที่ไม่สะดวกอ่านซับไตเติ้ล ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและพึงพอใจในการพากย์ของเรา”
“และนับจากนี้ MONOMAX จะมีคอนเทนต์หนังและซีรีส์ของตัวเอง ที่อยู่ภายใต้การผลิตของโมโนออริจินอล ประเดิมซีรีส์เรื่องแรกไปแล้วกับเรื่อง “ฟางเล่นไฟ” และภาพยนตร์ “My Next doll ยัยตุ๊กตาซ้อมรักยกกำลังสอง” รวมถึงกระแสซีรีส์เรื่องล่าสุด “เปลือกรักปมลวง HANGOUT” ที่ได้นางเอกชั้นนำของเมืองไทย คุณป๊อก-ปิยธิดา, คุณโดนัท-มนัสนันท์, คุณแพนเค้ก-เขมนิจ, คุณขวัญ-อุษามณี และ คุณชิปปี้-ศิรินทร์ มารวมตัวในซีรีส์เรื่องนี้ และกำลังจะออกอากาศทางโมโนแมกซ์ในวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ ที่ผ่านมา ในโลกโซเซียลมีการพูดถึงว่าอยากดูเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง และจะเห็นได้ว่ารายได้ของโมโนแมกซ์เติบโตขึ้น 15-25 เปอร์เซ็นต์ในเดือนนั้น ๆ ทันที”
“จากกรณีความสำเร็จที่ผ่านมา ทำให้ยิ่งมั่นใจว่าการทุ่มเทผลิตคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง ยิ่งเพิ่มการเติบโตได้ทุกเดือน โดยในวันที่ 14 ธันวาคมเดือนหน้านี้ เราจะมีการเปิดตัวผลิตซีรีส์และหนังอีก 24 เรื่อง ในงบที่เราวางไว้ 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบจัดสรรและไม่ได้ทุ่มเงินทั้งหมดในครั้งเดียว แต่จะค่อย ๆ ผลิตไปลงทุนไป โดยมีการคาดการณ์การใช้
งบในปีต่อไปของโมโนออริจินอล คือ 1 ใน 3 (ประมาณ 33%) ของงบรวมทั้งบริษัทจากเงิน 1,200-1,400 ล้านต่อปี ซึ่งจะสามารถผลิตได้ประมาณ 16-24 เรื่อง ซึ่งตอนนี้ทีมฝ่ายอินเตอร์ได้วางไลน์อัพในการนำคอนเทนต์ที่เราผลิตไปขายยังต่างประเทศแล้ว คาดว่าจะมีโอกาสที่ จะขายลิขสิทธิ์ต่างประเทศได้อีก และสามารถชดเชยต้นทุนได้ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ จากนี้จะเห็น MONOMAX ขยายตัวที่ดีต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีสมาชิก 2 ล้านรายในปี 2567 พร้อมมีเป้าหมายผลักดันรายได้กลับขึ้นมาในระดับ 2,000 ล้านบาท ภายในปี 2568-2569”
ในกรณีหลังควบรวม AIS และ 3BB การวางสถานะของทาง MONOMAX จะเป็นเช่นไร ทางคุณปฐมพงศ์ กล่าวว่า “MONOMAX เติบโตบนกล่อง 3BBGIGATV มาตลอด พอทางเอไอเอสได้ควบรวม 3BB แล้ว ทางเอไอเอสได้ทำข้อตกลงกับ MONOMAX แล้วเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับชม MONOMAX ในแพ็คเก็จเหมือนเดิม โดยทั้งสององค์กรจะต้องช่วยกันให้เติบโต โดยเฉพาะคอนเทนต์จาก MONOMAX ในช่อง 3BB ASIA ทาง 3BB GIGATV และ AIS PLAYBOX ก็ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ ซึ่งหลังการควบรวมเชื่อมั่นว่า ทิศทางธุรกิจ ความร่วมมือที่วางแผนค้างไว้จะนำมาดำเนินธุรกิจได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลว่าลูกค้าใครจะได้บริการ MONOMAX ต่างกันหรือไม่ สุดท้ายเป็นลูกค้า AIS ทั้งหมดที่จะเข้าถึง MONOMAX ผ่านแพ็คเก็จในราคาต่าง ๆ ที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้า”
ตามการอ้างอิงของข้อมูล TV and SVOD Viewership เรตติ้งโดยรวมแพลตฟอร์มดิจิตอลเดือนกันยายน 2566 โดย Nielsen (นีลเส็น) บริษัทที่ทำการวิจัยตลาด MONOMAX อยู่ในลำดับที่ 11 มีอัตราการเข้าถึงครัวเรือน (penetration) 17% คุณปฐมพงศ์ มองว่า “คู่แข่งรายแรกที่เป็นโกลบอลพรีเมี่ยมของเรา คือ Netflix อยู่ในลำดับที่ 7 ถ้าเปรียบเฉพาะตลาด SVOD เราตาม Netflix เพียงคนเดียว จากอันดับตรงนี้ ผมว่า MONOMAX ยังเติบโตได้อีก จากการคาดการณ์ ในปี 2022 ของกสทช. รายได้ของ OTT ในประเทศไทย น่าจะ 14,600 ล้านบาท แล้วตัวครัวเรือนปี 2022 ประมาณ 22 ล้านครัวเรือน อัตราการเข้าถึงของ OTT/SVOD 36 เปอร์เซ็นต์ในปี 2022 ปัจจุบัน MONOMAX มียอดผู้ใช้งานของ MONOMAX อยู่ที่ 860,000 โดยเราตั้งเป้า 2024 มีลูกค้าอยู่ที่ 1 ล้านราย และในปี 2025 เพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านราย สุดท้ายในเรื่องโครงการระยะยาวเราจับมือกับบริษัทที่ทำ AI เพื่อทำซับไตเติ้ลได้หลายภาษามากขึ้น อาทิ จีน ไทย ภาษาประเทศเพื่อนบ้านและภาษาอังกฤษ นอกจากนั้นก็เริ่มใช้ AI พากย์เสียงโดยใช้เสียงต้นแบบที่ใกล้เคียงเสียงนักแสดงคนนั้น ๆ โดยจะเริ่มกับการดูคลิปออนไลน์ของ MONO29, ซีรีส์, หนัง, คอนเทนต์ดูดวง ฯลฯ ตอนนี้อยู่ในช่วงพัฒนาอยู่ครับ” ลูกค้าใครจะได้บริการ MONOMAX ต่างกันหรือไม่ สุดท้ายเป็นลูกค้า AIS ทั้งหมดที่จะเข้าถึง MONOMAX ผ่านแพ็คเก็จในราคาต่าง ๆ ที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้า”
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon