J ผู้ถือหุ้นไฟเขียวแผนเพิ่มทุน RO ผ่านฉลุย หนุนโครงสร้างการเงินแกร่ง และแผนเดินหน้าพัฒนา 3 โปรเจ็กต์ใหม่ปีหน้า

213

มิติหุ้น – นายสุคนธ์ กาญจนหัตถกิจ (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานกรรมการ บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J พร้อมด้วย นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ (ที่ 2 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายปัญญา ชุติสิริวงศ์ (ซ้าย) ผู้อำนวยการสายงานกลุ่มนักลงทุนสัมพันธ์ตลอดจน คณะกรรมการบริษัทฯ ที่เข้าร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์ ในโอกาสจัดงานประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (EGM) ครั้งที่ 1/2566 ในรูปแบบระบบไฮบริด (Hybrid Meeting) ในวันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม 2566 ณ ห้องประชุม บมจ. เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์

โดยที่ประชุมไฟเขียวอนุมัติแผนการเพิ่มทุน และการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมครั้งที่ 4 (J-W4) พร้อมทั้ง อนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 720,232,245 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท โดยจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 480,154,830 หุ้น เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ ในอัตราส่วนการจัดสรรหุ้น 2.5 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน  และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 240,077,415 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ J -W4 ที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทที่จองซื้อ และได้รับจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จองซื้อและได้รับการจัดสรร ต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ J-W4 จำนวน 1 หน่วย

สำหรับเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนครั้งนี้ จะสนับสนุนให้บริษัทฯ มีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต โดยจะนำไปใช้คืนเงินกู้บริษัทแม่ (JMART) และใช้รองรับแผนขยายโครงการพัฒนาศูนย์การค้าชุมชน (คอมมูนิตี้มอลล์) ซึ่งเป็นธุรกิจที่สร้างกระแสเงินสดและกำไรที่ดีต่อเนื่องให้แก่บริษัท

นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวเสริมถึง ภาพรวมธุรกิจและการลงทุนของบริษัทฯ “เรามองว่า หลังสถานการณ์โควิดผ่านพ้นไป ช่วงนี้จะเป็นจังหวะลงทุน เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยเฉพาะธุรกิจศูนย์การค้าชุมชนที่เรามีความเชี่ยวชาญ และเป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา เราขยายแบบระมัดระวัง จนถึงปัจจุบันเรามีศูนย์การค้าชุมชนรวมทั้งสิ้น 6 โครงการ และตั้งเป้าปีหน้าปีเดียวเราจะขยายเพิ่มเติมอีก 3 โครงการ เพื่อรองรับการเติบโต สอดรับพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป เราเป็นห้างชุมชน เราตั้งใจที่จะดูแลทุกชุมชนให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น และสะดวกสบาย สะท้อนมาที่ ตัวเลขอัตราพื้นที่เช่าในระดับ 90% และผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง”

สำหรับผลงานปี 2566 คาดเติบโตตามเป้าหมาย จากธุรกิจพัฒนาศูนย์การค้าชุมชนแห่งใหม่มีการรับรู้รายได้จากพื้นที่เช่ามากขึ้น หลังจากเปิดตัวโครงการ JAS Green Village บางบัวทองในช่วงกันยายน 2566 ที่ผ่านมา สนับสนุนให้ปัจจุบัน บริษัทมีศูนย์การค้าชุมชนภายใต้การบริหารรวม 6 โครงการ มีพื้นที่เช่ารวมราว 7.5 หมื่นตารางเมตร

และมีโครงการที่รอเปิดตัวอีก 3 โครงการในปีหน้า ที่ JAS Green Village รามคำแหง, JAS Green Village ประเวศ และ JAS Green Village ขอนแก่น โดยเป็นโครงการที่มีพื้นที่เช่าแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างโครงการ สะท้อนว่า เราบุกจริง ด้วยต้นทุนที่ดินที่เราได้มาค่อนข้างเหมาะสม และมีพาร์ทเนอร์ที่พร้อมจะไปกับเราไม่ต่ำกว่า 50% ของอัตราพื้นที่เช่า

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีธุรกิจอื่นๆ เข้ามาสนับสนุน โดยเฉพาะธุรกิจใหม่เพื่อรองรับกับสังคมผู้สูงวัย เข้าสู่ ธุรกิจ Healthcare and Service ภายใต้ชื่อ Senera Senior Wellness ที่เปิดตัวสาขาแรก ตั้งอยู่บริเวณศูนย์การค้าชุมชน “JAS Green Village Kubon” บนถนนคู้บอน ย่านรามอินทรา และยังเดินหน้าขยายการเติบโตในธุรกิจนี้ เตรียมเปิดตัวที่  “JAS Green Village บางบัวทอง” ในช่วงไตรมาส 1/2567 แถมล่าสุด ยังได้รับรางวัล “Excellent Senior Service Award 2023” ตอกย้ำความเชื่อมั่นต่อลูกค้า

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่างฟ

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon