MGI “อิงฟ้า-ชาล็อต” รักแท้หรือแค่หลอกลวง?

1055

เป็นที่ฮือฮามาสำหรับหุ้นน้องใหม่ MGI  หรือ “บมจ.มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ฟันฝ่าช่วงวิกฤตตลาดหุ้นและวิกฤตหุ้นไอพีโอประกาศเข้าเทรดวันแรก 14 ธ.ค.66 ด้วยราคา IPO ที่ 4.95 บ. PE 11.78 เท่า ซึ่งถือว่ายังมีความสมเหตุสมผลของราคา เมื่อเทียบกับไอพีโอช่วงก่อนหน้า PEสูงลิบลิ่ว 30-40 เท่า จนทำให้เป็นหุ้นที่อยู่ในเรดาร์ บรรดา “เทรดเดอร์” ทั้งหลายเข้าเก็งกำไรไล่ราคากันจนบางวัน (วันที่ 20 ธ.ค.) วอลุ่มขึ้นแท่นอันดับ 1 ซื้อขายกว่า 1.9 พันลบ. ทิ้งดิ่งหุ้นบิ๊กแคปไปหลายขุม

ราคาบวก 300%จากไอพีโอ

ด้านราคาหุ้น MGI ก็แทบไม่ต้องพูดถึงถือเป็น ทอล์คออฟเดอะทาวน์” โดยเฉพาะบรรดาเทรดเดอร์ที่ออกมาบอกว่า หุ้นตัวนี้ไม่โหดราคาก็ยังปรับฐานขึ้นต่อเนื่องช่วง 5 วันแรก (14-20 ธ.ค.66)ราคาพุ่งทะยานสูงสุด 20.10 บ.บวก 306%  ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะจำนวนหุ้นที่ขายไอพีโอไม่ได้มาก เพียง 60 ล้านหุ้น และบรรดาขาใหญ่ที่ติดโผ ทั้ง “พีรเจต สุวรรณนภาศรี” ถือ 4.7 ล้านหุ้น อยู่อันดับ 4 , “พงศักดิ์ ธรรมธัชอารี” ถือ 2 ล้านหุ้น อยู่อันดับ 7 ,“สุระ คณิตทวีกุล” ถือ 2 ล้านหุ้น อยู่อันดับ 8 และ KAMART ก็ยังติดโผถือ 6 ล้านหุ้น อันดับ 3 แว่วมาว่ายังไม่มีการปล่อยของออก ทำให้นลท.ที่ทยอยเข้าช่วงไหนก็ยังทำกำไรได้ แฮปปี้กันไป

“เฮียณวัฒน์” นำทีมมั่งคั่ง “อิงฟ้าชาล็อต”รวย!  

และที่สำคัญผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1  “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ถือ 90 ล้านหุ้นรวยขึ้นมาอย่างทันตาเห็นทันที 1,476 ล้านบาท (อ้างอิงราคาปิดวันที่ 22 ธ.ค.66 ที่ 16.40บ.) พร้อมด้วยนางงามที่ถือว่ามีแวลู่ที่สุดในเวลานี้ของ MGI “อิงฟ้า วราหะ” ที่ถืออยู่ 2 ล้านหุ้น สัดส่วน 0.95% เช่นเดียวกับ “ชาล็อต ออสติน” ก็ถือเท่ากัน 2 ล้านหุ้น สัดส่วน 0.95% รวยขึ้นมาทันทีคนละ 32.8 ล้านบาท

PEพุ่งสูงลิบลิ่ว 38-39 เท่า

 แล้วอะไรทำให้ นลท.มั่นใจในหุ้นน้องใหม่ตัวนี้ถึงพากันลากขึ้นไปได้ขนาดนี้จน PE พุ่งสูงลิบลิ่ว 38-39 เท่า เพียงไม่กี่วัน หลังเข้าเทรด ใช่มูลค่าแบรนด์ มิสแกรนด์ฯหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาสร้างรายได้ในปี 64 , 65 และ 9 เดือนปี 66 ที่ 42.86 ลบ.(สัดส่วน 12.42% ), 71.66 ลบ.(สัดส่วน 22.40%)และ 54.63 ลบ.(สัดส่วน 12.63%)ตามลำดับ ขณะที่รายได้รวมปี 64 , 65 และ 9 เดือนปี 66 อยู่ที่ 345.10 ลบ., 319 ลบ., และ 432 ลบ.ตามลำดับ

 9 เดือนกำไร 77ลบ.

 ขณะที่ ด้านกำไรสุทธิปี 64 , 65 และ 9 เดือนปี 66 อยู่ที่ 29 ลบ., 48 ลบ.และ 77 ลบ. ตามลำดับ โดยหากดูจากโครงสร้างรายได้แล้วจะพบว่า มีทั้งรายได้จากธุรกิจพาณิชย์ (Commerce) สัดส่วน 41% ,ธุรกิจประกวดมิสแกรนด์(Pageant) สัดส่วน 13% , ธุรกิจบริหารจัดการศิลปินสัดส่วน 23% , ธุรกิจสื่อและบันเทิง สัดส่วน 19% และธุรกิจเช่าช่วงMGI Hall 4%

ธุรกิจพาณิชย์จัดอยู่ในกลุ่มธุรกิจที่แข่งขันสูง

โดยจะพบว่า ธุรกิจพาณิชย์ ถึงแม้จะเป็นธุรกิจที่ต่อยอดการประกวด อาทิ น้ำพริกปลาสลิด น้ำพริกกากหมู ปลาร้าทรงเครื่อง  ในกลุ่มบริโภค หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกาย น้ำหอม เครื่องแต่งกาย รวมไปถึงวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นต้น เหล่านี้ก็จัดว่ามีการแข่งขันที่สูง

ธุรกิจบริหารศิลปินยังพึ่งพิงเพียง 2 ศิลปิน ““อิงฟ้า” กับ “ชาล็อต”เท่านั้น

ขณะที่ธุรกิจบริหารศิลปินเพิ่งจะเริ่มเห็นว่ามีสัดส่วนรายได้ที่มีนัยสำคัญในปี 65 เท่านั้น และพบว่ามีเพียง 2 ศิลปินที่ยังเป็นกระแสค้างปีจนถึงทุกวันนี้คือ “อิงฟ้า” กับ “ชาล็อต” พบว่า ปี 65 อิงฟ้าสร้างรายได้ถึง 38.44 ลบ. ส่วนชาล็อตสร้างรายได้ 9.10 ลบ. ขณะที่ช่วง 9 เดือน 66  อิงฟ้าสร้างรายได้ 34.75 ลบ. ส่วนชาล็อตสร้างรายได้ 18.85 ลบ.ก็จริง แต่ความยั่งยืนในธุรกิจนี้ก็ยังมองไม่เห็นในระยะยาว หากไม่มี “อิงฟ้า” กับ “ชาล็อต” จะมีใครขึ้นมาทดแทนและจะการันตีการสร้างได้ทัดเทียม 2 ศิลปินนี้หรือไม่

นี่หรือคือคำตอบที่สะท้อนราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หรือว่า MGI เป็นเพียงกลุ่มหุ้นของกลุ่มเทรดเดอร์ รายใหญ่ตะลุมบอนเข้ามาระยะสั้นๆ เท่านั้น ใครไม้สุดท้ายก็ถือยอดดอยยกันไป …หาก CONER ยังไม่แตกราคาหุ้นยังดันได้ไม่ยาก

กูรูมองวิเคราะห์เชิงคุณภาพแล้วยังไม่เห็นอนาคตเท่าไหร่

ไม่เพียงเท่านี้กูรูที่ค่ำหวอดในวงการหุ้นยังบอกว่าอีกว่า MGI เป็นเพียงหุ้นเก็งกำไรตัวหนึ่งเท่านั้น แต่นักลงทุนก็ควรหาคำตอบว่าธุรกิจนี้กำไรมาจากไหนกันแน่?  และหากดูจากการวิเคราะห์เชิงคุณภาพแล้วยังไม่เห็นอนาคตเท่าไหร่ และแบรนด์นี้จะขายของได้ดีในระยะยาวได้หรือไม่ มีโรงงานผลิตของเองหรือไม่ แล้วทำไมจะต้องซื้อสินค้ากับแบนรด์นี้เท่านั้น หากเป็นแบรนด์ดังระดับโลก อย่าง หลุยส์วิตตอง” ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ขณะที่ราคาเป้าหมาย โบรกมองไว้ที่ 9.80 บ.เท่านั้น

ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินราคาเป้าหมายที่ 9.80 บ.อิง PER67ที่ 18 เท่า ซึ่งเป็นค่ากลาง Forward PERปี 67 ของหุ้นกลุ่มบันเทิงและค้าปลีกที่ลักษณะธุรกิจใกล้เคียงกัน จากสมมติฐานกำไรปี 67 ที่ 108 ลบ. EPS ปี 67 ที่ 0.52 บ./หุ้น เท่านั้น

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon