มิติหุ้น-TTW โดยบล.ฟิลลิป ระบุว่า คาด Q4/66 ธุรกิจน้ำประปาคาดจะลดลงจากการเริ่มสัญญาใหม่ของPTW แต่จะได้ส่วนแบ่งกำไรของ CKP มาช่วยชดเชยตามการผลิตไฟฟ้าได้สูงกว่าปีก่อน ปี 2567 แม้จะมีปัจจัยที่อาจกดดันการดำเนินงาน ค่าน้ำประปาที่อาจลดลงตาม CPI ภาคกลาง ค่าไฟฟ้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจากปลายปีเอลนิโญที่มีผลต่อ CKP และรับรู้สัญญาใหม่ PTW เต็มปี แต่คาดจะยังจ่ายปันที่ 0.60 บาทได้ ให้ผลตอบแทน 6.6% คำแนะนำ “ซื้อ” รับเงินปันผล
Q466 ส่วนแบ่งกำไรจาก CKP จะช่วยชดเชยธุรกิจน้ำประปาที่คาดจะลดลง
. ต.ค.-พ.ย. ปริมาณการขาย +1.4% y-y ที่ 48.01 ล้าน ลบ.ม. โดยการเติบโตจาก PTW +5.3% จากการใช้ในภาคครัวเรือน แต่ TTW และ BIE -1.9% และ -5.7% จากอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการส่งออกที่ติดลบและเศรษฐกิจในประเทศ อีกทั้งพื้นที่ของ TTW มีการซ่อมบำรุงท่อประปาและ BIE ลูกค้าบางส่วนย้ายฐานการผลิตออกจากนิคมฯ และ PTW ได้สัญญาใหม่หลังหมดสัมปทาน 14 ต.ค. อัตราค่าน้ำลดลงเป็น 6.50 บาท/ลบ.ม. ใน 3.58 แสน ลบ.ม. แรก/วัน และที่ 6.06 บาทในส่วนที่เกินจากเดิมที่ 13.76 บาท/ลบ.ม. ซึ่ง 9M66 รายได้ PTW คิดเป็น 30% รายได้น้ำประปา จากค่าน้ำประปาของ PTW ที่ลดลงทำให้รายได้จากน้ำประปาใน 4Q66 ลดลง y-y, q-q แม้ปีนี้ TTW ได้ปรับขึ้นค่าน้ำประปาส่วน 3 แสน ลบ.ม. แรก +5.9% และส่วนที่เกิน 3 แสน ลบ.ม. +4% คาดส่วนแบ่งกำไรจาก CKP จะดีขึ้นมาช่วยชดเชยจากปริมาณน้ำที่ใช้ผลิตไฟฟ้าสูงกว่าปีก่อน ทำให้ ต.ค.-พ.ย. ผลิตไฟฟ้า +19.7% y-y ที่ 2.15 ล้าน MWh
ปี 2567 ยังมีปัจจัยรบกวนการดำเนินงาน
. TTW คาดปริมาณการขายน้ำจะทรงตัว y-y จากที่ทางฝ่ายคาดจะโต 1.8% y-y ที่ 289.28 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งมองว่าค่อนข้าง Conservative เมื่อเทียบกับเศรษฐกิจในประเทศที่เติบโตดีขึ้นเมื่อดูจากคาดการณ์ของ ธปท. (13ธ.ค. 66) จีดีพีปี 2567 โต 3.2% ในกรณีที่ไม่มีโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต แต่หากมีโครงการดังกล่าวจีดีพีโต 3.8% ซึ่งทั้ง 2 กรณีจะโตกว่าจีดีพีปี 2566 ที่ 2.4% อีกทั้ง การส่งออก +4.3% และนำเข้า +5.3%-5.7% ในปี 2567 เทียบปี 2566 ที่คาด -1.8% และ -1.5% ตามลำดับ การใช้น้ำประปาควรสูงขึ้น
. อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่รบกวนการดำเนินงาน 1) อัตราค่าไฟฟ้ามีแนวโน้มสูงขึ้นจากช่วง ก.ย.-ธ.ค. 66 ที่ 3.99 บาท/หน่วย ในช่วง ม.ค.-เม.ย. 67 ซึ่งยังรอรัฐบาลกำหนดราคาแต่คาดจะอยู่ระหว่าง 4.10-4.20 บาท/หน่วย แต่ยังต่ำกว่า ม.ค.-เม.ย. 66 ที่ 5.33 บาท/หน่วย คงต้องติดตามค่าไฟฟ้าในช่วงถัดไป เพราะคิดเป็นต้นทุนการผลิต 30-35% 2) อัตราเงินเฟ้อที่ติดลบช่วงปลายปี 2566 ส่งผลต่อราคาขายน้ำประปาในปี 2567 ซึ่งค่าน้ำประปาของ TTW ในส่วนที่เกิน 3 แสน ลบ.ม. อัตราค่าน้ำจะลดลง -0.23% ตามเงินเฟ้อภาคกลาง พ.ย. 66 และส่วนของ 3 แสน ลบ.ม. แรกอาจปรับลงหากเงินเฟ้อภาคกลาง ธ.ค. 66 ยังติดลบ ส่วน PTW การปรับขึ้นค่าน้ำประปาจะไปปรับในปี 2568 3) การรับรู้สัญญาใหม่ของ PTW เต็มปี ซึ่ง TTW คาดสัญญาใหม่ของ PTW จะมีอัตรากำไรก่อนภาษีอย่างน้อยที่ 15% โดยขึ้นอยู่กับปริมาณการซื้อน้ำของ กปภ. และ 4) สถานการณเอลนิโญ ที่ปี2567 ฤดูฝนอาจมาล่าช้าและปริมาณฝนน้อยเมื่อเทียบกับปี2566 แต่ปริมาณน้ำในเขื่อนหลัก 4 เขื่อนที่ส่งน้ำมาแม่น้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำเฉลี่ยปัจจุบันอยู่ที่ 73% คาดจะไม่ส่งผลต่อการผลิตน้ำประปา แต่อาจไปมีผลกับส่วนแบ่งกำไรของ CKP ที่ลาวอาจมีผลกระทบจากเอลนิโญ ทำให้น้ำที่ใช้ผลิตไฟฟ้าลดลง
จุดเด่นเงินปันผล ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 10.10 บาท
. TTW ยังสนใจในการลงทุนในธุรกิจน้ำประปา บำบัดน้ำเสีย และบริหารจัดการน้ำครบวงจร แต่ไม่มีโครงการประมูลจากภาครัฐ อีกทั้งโครงการที่จะลงทุนทั้งในหรือต่างประเทศ ยังต้องศึกษาความเป็นไปได้ของขนาดโครงการและปัจจัยอื่น ๆ จึงยังไม่เห็นการลงทุนในระยะเวลาอันใกล้ แต่แนวโน้มยังโตได้จากสัดส่วนการใช้น้ำภาคครัวเรือนที่สูงขึ้นและไม่ผันผวนน้อยกว่าภาคอุตสาหกรรม อีกทั้ง TTW ยังมีความสามารถในการจ่ายปันผลได้ที่ 0.60 บาท/ปี เมื่อดูในอดีตปี 2558-2565 ที่จ่ายปันผล 0.60 บาท/ปี จ่าย 2 ครั้ง ๆ ละ 0.30 บาท จึงมีผลตอบแทนเงินปันผลที่ 6.6% บนคาดการณ์กำไรปี2566 ที่ 2,711 ล้านบาท และปี 2567 ที่ 2,558 ล้านบาท บนวิธี SOTP ราคาพื้นฐาน 10.10 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ” มองหุ้นเหมาะกับการลงทุนเพื่อรับเงินปันผล จากธุรกิจหลักน้ำประปามีรายได้และกำไรไม่ผันผวนมากคาดหวังเงินปันผลได้สม่ำเสมอ แต่อาจไม่เหมาะกับนักลงทุนที่คาดหวังการเติบโตของกำไรที่จะผลักดันราคาหุ้นให้สูงขึ้น
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon