ผลงานชิ้นโบแดงของ “ภากร ปีตธวัชชัย” กรรมการและผู้จัดการ ตลท.หลังโดนกระแสสังคมประนามการปล่อยให้โรบอทมาเอาเปรียบนักลงทุนรายย่อยอย่างน่าเกลียด ผ่านโปรแกรม HFT เจ้าใหญ่เพียงรายเดียวจนกินมาร์เก็ตแชร์คู่แข่งและทิ้งห่างไปหลายขุม
ที่สำคัญยังมีพฤติกรรมที่สุดแสบ ใช้ความได้เปรียบรายย่อยของค่าฟีและความเร็วแบบไม่จำกัดของเครื่องมือ HFT ถล่มขายหุ้นในมือยังไม่หนำใจ เหิมเกริมถึงขั้นใช้ทุกเครื่องมือที่ ตลท.เปิดช่องให้เอาเปรียบรายย่อยโดยการยืมหุ้น จาก NVDR มา Short sell ปกติและการ Short sell แบบผิดเกณฑ์ หรือ Naked Short ได้ทำให้หุ้นขนาดเล็กหลายตัวถูกทุบไปด้วยฝีมือของกลุ่มคนไม่กี่กลุ่มที่มีเครื่องมือความได้เปรียบเหล่านี้ และที่สำคัญมันทำกันเป็นกระบวนการครบวงจร ทั้งการออกรีเสิร์ตมาทุบหุ้นก่อน ส่งโบรกออนไลน์ต่างชาติมากระหน่ำขายหุ้นดังกล่าวจนเจ้าของหุ้นงงกันเป็นแถบๆ โล่แจ้งตลท. แต่กลับถูกตอบกลับว่าไม่พบความผิดปกติ
แต่เรื่องนี้ยังไม่จบร้อนจนถึงนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” ถึงกับต้องออกโรงเอง สั่ง “โต้ง-กิตติรัตน์ ณ ระนอง” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เร่งเข้ามาจัดการด่วนเพื่อหวังดึงความเชื่อมั่นในตลาดทุนให้กลับมาโดยเร็วที่สุด
จน “ภากร ปีตธวัชชัย” นั่งไม่ติดเก้าอี้ และเร่งสร้างผลงานบ้าง นั่นก็คือการขยายเวลาเทรดช่วงเวลาบ่าย โดยจะขยับเวลาให้เร็วขึ้นเป็นเวลา 14.00 น. จากเดิมเทรดเวลา 14.30 น.จากกระแสข่าวคาดจะเริ่มช่วงต้นปี 67 ซึ่งมันไม่น่าจะใช่ทางออกของปัญหากระมังท่าน….เพราะกระแสของนักลงทุน เทรดเดอร์ ไปจนถึงนักวิเคราะห์ออกมาแสดงความคิดเป็นไปต่างๆนาๆ ซึ่งไม่ใช่แนวทางบวกเลย
บางรายถึงกับแสดงความคิดเห็นว่า “ขยายเวลาเทรดเพื่อ…ให้โรบอทมีเวลากินเงินนักลงทุนรายย่อยเพิ่มขึ้น” และ “ตลาดจะได้เก็บค่าธรรมเนียมมากขึ้น” ซึ่งมันไม่น่าจะสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนได้
สอดคล้องกับคนในแวดวงบริษัทหลักทรัพย์ทั้งหลายบอกว่าเพิ่มเวลาเทรด…มันเป็นการเบียดเบียนเวลาทำงานของพนักงงานของโบรกเกอร์ ทั้ง มาร์เก็ตติ้ง นักวิเคราะห์ หรือพนักงานแบ็คออฟฟิศ มากกว่า
ขณะที่กูรูผู้ค่ำหวอดในแวดวงตลาดทุนบอก ตลาดหุ้นไทยถึงเวลาแล้วที่จะต้องปฏิวัติครั้งใหญ่ เพราะในสายตาต่างชาติหุ้นในกระดานหุ้นไทยไม่ได้มีเสน่ห์แล้วธุรกิจส่วนใหญ่ไม่ใช่เป็นธุรกิจในกลุ่ม News S Curve หุ้นไอพีโอที่เข้ามาก็ยังเอาเปรียบรายย่อย ซึ่งหากตลท.ยังปล่อยให้เป็นแบบนี้คงไม่ต้องแปลกใจหากดัชนีหุ้นไทยจะลงไปต่ำกว่า 1,000 จุดในไม่ช้า…ต้องอย่าลืมต่างชาติขายหุ้นไทยมาต่อเนื่องหลายปีรวมกว่า 800,000 ลบ.ซึ่งเชื่อว่ายังไม่หยุดแค่นี้!!! หากยังมีผู้จัดการตลาดแบบนี้
บทสรุปคือ ตลท.ยังเกาไม่ถูกที่คันนั่นเองและไม่ได้สะท้อนถึงความเดือดร้อนของ เจ้าของบริษัทที่กำไรดีๆแต่ถูก HFT ทุบหุ้น นลท.รายย่อยเข้าลงทุนหุ้นดีแต่ขาดทุน
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
