มิติหุ้น – บล.พาย ระบุภายหลัง TU แจ้งตลาดถึงการถอนการลงทุนใน Red Lobster หลังจากเข้าลงทุนตั้งแต่ปี 59 ผลกระทบเบื้องต้นคือ TU ต้องมีการบันทึกการด้อยค่าเงินลงทุนทั้งจำนวนมูลค่ารวมประมาณ 18,500 ล้านบาท โดยจะรับรู้เข้ามาในช่วง Q4/66 นี้ทันที ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการในงวดดังกล่าวและปี 66 มีผลขาดทุนอย่างมาก อย่างไรก็ตามรายการดังกล่าวเป็นรายการที่ไม่ใช่เงินสด ทำให้ TU จะมีการขอผ่อนปรนกับผู้ถือหุ้นกู้ในการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการทั้งปี ทั้งนี้เรามองว่าการทำดังกล่าวจะเป็นผลดีระยะยาวที่ไม่ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนเข้ามาปีละกว่า 500-1,000 ล้านบาท ดังนั้นเราจึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม
TU มีการแจ้งตลาดหลักทรัพย์ถึงการถอนการลงทุนใน Red Lobster หลังจากเข้าลงทุนมาตั้งแต่ปี 59 โดยแบ่งการลงทุนเป็นหุ้นสามัญ 25% และหุ้นกู้แปลงสภาพ มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 580 ล้านเหรียญฯ ซึ่งปัจจุบันเงินลงทุนทั้งหมดมีมูลค่าประมาณ 530 ล้านเหรียญฯ หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 18,500 ล้านบาท สาเหตุที่ถอนการลงทุนเนื่องจาก TU มีการวางแผนการเติบโตไปถึงปี 30 โดยจะหันไปเน้นธุรกิจหลักอย่างกลุ่มอาหารทะเลและอาหารสัตว์เลี้ยงมากขึ้น อีกทั้ง Red Lobster มีความต้องการเงินลงทุนเพิ่มอย่างต่อเนื่องแต่ไม่สามารถสร้างผลกำไรได้จึงทำให้ TU ตัดสินใจถอนการลงทุนดังกล่าว
ผลกระทบคือ TU จะมีการบันทึกด้อยค่าเงินลงทุนดังกล่าวเข้ามาในช่วง Q4/66 นี้ (ทั้งนี้มูลค่าที่แท้จริงจะขึ้นอยู่กับผลขาดทุนของ Red Lobster ในงวด Q4/66 และค่าเงินอีกครั้ง) ทำให้ผลประกอบการในงวดดังกล่าวมีโอกาสจะเห็นผลขาดทุนอย่างมาก จากเดิมที่เราเคยคาดว่าจะมีกำไรประมาณ 1,500 ล้านบาท (เราจะมีการประชุมกับบริษัทเพื่อประเมินผลประกอบการงวด Q4/66 ก่อนจะมีบทวิเคราะห์ตามมา) และทำให้ผลประกอบการทั้งปีพลิกจากที่คาดว่าจะมีกำไรกว่า 4,800 ล้านบาทเป็นขาดทุนทันที (9M66 TU มีกำไรสุทธิ 3,256 ล้านบาท)
การบันทึกดังกล่าวจะเป็นการลดลงในส่วนของเงินลงทุนที่อยู่ในสินทรัพย์และส่วนของผู้ถือหุ้น ทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนจากเดิมอยู่ที่ 0.65 เท่า ในช่วง 9M66 ขึ้นเป็น 0.8 เท่า (อ้างอิงจากงบ 9M66) แต่ยังไม่เกินเงื่อนไข 2.0 เท่าที่ทำไว้กับผู้ถือหุ้นกู้แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามจากผลขาดทุนเป็นการผลิตเงื่อนไขบางส่วนกับทางเจ้าหนี้ทำให้อาจจะมีผลต่อการจ่ายเงินปันผล แต่ด้วยการที่เป็นรายการที่ไม่ใช่เงินสด ทำให้ TU จะมีการเจรจาผ่อนผันเงื่อนไขกับเจ้าหนี้ เพื่อให้สามารถจ่ายเงินปันผลได้ (โดยจ่ายจากผลประกอบการที่ไม่รวมรายการด้อยค่าดังกล่าว)
**เจ็บแต่จบ **
ผลดังกล่าวเรามองว่าเป็นปัจจัยลบระยะสั้น แต่ระยะยาว ด้วยไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนจาก Red Lobster ที่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมารับรู้เฉลี่ยปีละกว่า 3,600 ล้านบาท (รวมผลขาดทุนทางบัญชี) แม้จะทำให้มีการจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นและไม่มีดอกเบี้ยรับเข้ามา (เฉลี่ยปีละ 1,000 ล้านบาทแต่หยุดรับรู้ตั้งแต่ Q2/65 ที่ผ่านมา) แต่รวมแล้วเราคาดว่าจะเป็นผลบวกมากกว่า โดยเราอาจจะมีการทบทวนประมาณการปี 67 อีกครั้งหลังประกาศผลประกอบการ สำหรับคำแนะนำการลงทุน เรามองว่าการทำดังกล่าวจะเป็นผลดีระยะยาวเราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม
นอกจากนี้ TU ประกาศซื้อหุ้นคืน 200 ล้านหุ้นวงเงิน 3,600 ล้านบาท เริ่ม 20 ก.พ.
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/