ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรง
- วันที่ 20 ม.ค. 67 Al Jazeera รายงานอิสราเอลใช้เครื่องบินรบยิงขีปนาวุธทำลายอาคารในกรุงดามัสกัสเมืองหลวงของซีเรีย เพื่อสังหารสมาชิกระดับสูงแห่งกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน เสียชีวิต 5 ราย และทหารซีเรียเสียชีวิตอีกหลายราย ทั้งนี้ ประธานาธิบดีอิหร่าน นาย Ebrahim Raisi ประณามการโจมตีที่เกิดขึ้น และประกาศจะแก้แค้น
- วันที่ 20 ม.ค. 67 กองทัพสหรัฐฯ โจมตีฐานของกองกำลัง Houthi ในเยเมน โดยพุ่งเป้าไปที่ขีปนาวุธต่อต้านเรือของกลุ่ม Houthi เพื่อตอบโต้การยิงขีปนาวุธโจมตีเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ Gibraltar Eagle ขณะแล่นอยู่ที่อ่าวเอเดน ขณะที่ Shell ประกาศระงับการขนส่งพลังงานทางเรือผ่านทะเลแดงชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. 67
- North Dakota Pipeline Authority ของสหรัฐฯ รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในรัฐ North Dakota วันที่ 19 ม.ค. 67 เพิ่มขึ้น 150,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 745,000-800,000 บาร์เรลต่อวัน หลังหยุดดำเนินการจากสภาพอากาศหนาวเย็นเฉียบพลัน (Cold Blast) จากพายุหิมะจากอาร์กติกพัดถล่มทั่วสหรัฐฯ
- รายงานฉบับเดือน ม.ค. 67 ของ OPEC คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปี 2567 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.24 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 104.36 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- 21 ม.ค. 67 บริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย National Oil Corp. (NOC) ยกเลิกเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) การส่งมอบน้ำมันดิบจากแหล่ง El Sharara (300,000 บาร์เรลต่อวัน) ซึ่งประกาศเมื่อ 7 ม.ค. 67 และจะกลับมาผลิตเต็มกำลัง หลังการประท้วงยุติ
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon