TOP วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

115

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม จากการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
และความตึงเครียดในทะเลแดงที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 3% หลังรายงานตัวเลข GDP สหรัฐฯ ประจำไตรมาส 4 ปี 2566 เติบโตขึ้น 3.3% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มเพียง 2.0% เนื่องจากการบริโภคภายในประเทศมากขึ้นกว่าคาด อย่างไรก็ตาม การเติบโตของเศรษฐกิจที่รวดเร็วอาจส่งสัญญาณให้ FED ไม่มีความจำเป็นที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือน มี.ค. 67

+ สถานการณ์ความไม่สงบในทะเลแดงยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดกองกำลังฮูตี (Houthi) ได้โจมตีเรือรบสหรัฐฯ ด้วยขีปนาวุธ ส่งผลให้บริษัทขนส่งสินค้าทางเรือยังมีความจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงเส้นทางทะเลแดง

– สภาพอากาศที่หนาวจัดในช่วงตลอด 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้การนำเข้าน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดน้อยลง เนื่องจากโรงกลั่นหลายแห่งปรับลดกำลังการผลิตลง เนื่องจากผลกระทบจากความหนาวเย็นดังกล่าว อย่างไรก็ตาม โรงกลั่นในบริเวณดังกล่าวเริ่มทยอยกลับมาดำเนินการผลิตน้ำมันได้อีกครั้ง และมีการคาดการณ์ว่าสถานการณ์จะดีขึ้น หลังอุณหภูมิเริ่มปรับตัวสูงขึ้น

ราคาน้ำมันเบนซิน : ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยราคาน้ำมันเบนซินในเอเชียปรับเพิ่มตามตลาดสหรัฐฯ หลังโรงกลั่นในสหรัฐฯ หยุดการผลิตกะทันหันจากปัญหาไฟฟ้าดับเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สต็อกน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 19 ม.ค. 67 ปรับตัวสูงขึ้น 4.9 ล้านบาร์เรลสู่ระดับ 253 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันดีเซล : ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันตึงตัวจากโรงกลั่นในอินโดนีเซียมีแผนปิดซ่อมบำรุง ในเดือน ก.พ. 67 เป็นระยะเวลา 2 เดือน ทั้งนี้ ปริมาณสต็อกน้ำมันดีเซลสิงค์โปร์ประจำสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 24 ม.ค. 67 ยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 6.9 ล้านบาร์เรล

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon