มิติหุ้น – นางสาวสุภาภรณ์ อังศรีสุรพร ผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการอาวุโส อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวถึงความสำคัญและการเติบโตของตลาดกลุ่มโฮเรกา (HoReca) ว่า ตลาดโฮเรกาครอบคลุมธุรกิจกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร กาแฟ และธุรกิจจัดเลี้ยง เป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวและบริการ โดยข้อมูลจาก ResearchAndMarkets คาดว่าการเติบโตของตลาดโฮเรกาทั่วโลกระหว่างปี 2567-2570 จะเติบโตถึง 349.22 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนตัวเลขสำคัญของไทยคือ ตัวเลขจำนวนและรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานว่า ปี 2566 ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น 28,042,131 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 151% สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.2 ล้านล้านบาท ส่วนเป้าหมายในปี 2567 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไทยแตะ 35 ล้านคน สร้างรายได้อยู่ที่ 3.5 ล้านล้านบาท เป็นรายได้จากตลาดต่างประเทศ 2.5 ล้านล้านบาท และรายได้จากตลาดในประเทศ 1 ล้านล้านบาท
ดังนั้นเพื่อเพิ่มความสามารถของธุรกิจให้รองรับกับการท่องเที่ยวที่ขยายตัว ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีแผนการดำเนินงานและมีการลงทุนที่เหมาะสม เพื่อเสริมศักยภาพ สร้างความประทับใจและดึงดูดลูกค้า พร้อมสร้างความสามารถทางการแข่งขันในธุรกิจได้ โดยงาน Food & Hospitality Thailand นับเป็นงานแสดงสินค้าของธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บาร์ ค้าปลีก และธุรกิจบริการที่ครบวงจรและสำคัญงานหนึ่งของภูมิภาค เป็นศูนย์รวมของผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้ประกอบการ และผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจตัวจริง โดยในปีนี้มีการขยายพื้นที่จัดงานจาก 3 เป็น 4 ฮอลล์ ของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และจัดร่วมกับ 2 พันธมิตรยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน คือ งาน Hotel & Shop Plus งานแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์สำหรับการออกแบบตกแต่งอาคาร โรงแรม และพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุด จากประเทศจีน และงาน Hotelex งานแสดงสินค้าด้านอาหารและอุปกรณ์สำหรับธุรกิจบริการชั้นนำระดับนานาชาติ จากประเทศจีน สำหรับงาน Food & Hospitality 2024 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-24 สิงหาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายในงานนอกจากจะมีการจัดแสดงสินค้าแล้ว ยังเป็นแหล่งความรู้ นำเสนอเทรนด์ธุรกิจ กิจกรรมการประชุม สัมมนา และเวิร์กชอป ที่น่าสนใจอีกมากมายที่ผู้ประกอบการและผู้อยู่ในธุรกิจโฮเรกาไม่ควรพลาด
ด้าน นายวีรโชติ ตั้งกมลสุข กรรมการผู้บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท เซเว่นไฟว์ ดิสทริบิวเตอร์ จำกัด หนึ่งในผู้นำตลาดเครื่องครัวเชิงพาณิชย์ของไทย ซึ่งดำเนินธุรกิจมามากกว่า 42 ปี กล่าวถึงแนวโน้มของตลาดเครื่องครัวเชิงพาณิชย์ในปี 2567 ว่า การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวแม้จะยังไม่ 100% แต่ส่งผลให้เกิดการลงทุนมากขึ้นในธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม หรือศูนย์การค้า เพื่อรองรับการกลับมาของการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ตลาดเครื่องครัวเชิงพาณิชย์กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยมูลค่ารวมของตลาดคาดว่าไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท/ปี นอกจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวแล้ว ยังเป็นผลมาจากการที่ผู้ประกอบการมีการศึกษาหาข้อมูลถึงข้อดีของระบบครัวเชิงพาณิชย์ก่อนตัดสินใจลงทุน ตั้งแต่การวางแบบระบบ การจัดระบบ การพัฒนาบุคลากร การเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจ รวมถึงเลือกใช้อุปกรณ์ครัวที่มีเทคโนโลยีที่จะช่วยให้การประกอบธุรกิจง่ายและสะดวกขึ้น ทำให้เกิดความคุ้มค่า เพิ่มผลผลิต และลดต้นทุนทางธุรกิจได้
ปัจจุบัน เซเว่นไฟว์ ดิสทริบิวเตอร์ เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องครัวคุณภาพชั้นนำจากทั่วโลกกว่า 40 แบรนด์ และมีสินค้ากว่า 25,000 รายการ ครอบคลุมธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม โรงเรียน โรงงาน และครัวเรือน ฯลฯ โดยมีการดูแลแบบครบวงจร (Solution Provider) ทั้งให้คำปรึกษา ออกแบบ ผลิต ติดตั้ง ทดสอบ ส่งมอบ และดูแลลูกค้าหลังการขาย กับ ผู้เริ่มต้นทำธุรกิจและผู้ที่มีธุรกิจเกี่ยวกับอาหารและโรงแรมอยู่แล้ว ซึ่งการได้ร่วมงานกับ Food & Hospitality Thailand ทำให้ได้พบกับลูกค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ได้เห็นถึงแนวโน้มของตลาดจากการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับลูกค้าและผู้อยู่ในธุรกิจตัวจริงในแต่ละปี นอกจากจะมีการจัดแสดงสินค้าแล้ว ยังมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในทุกครั้งของการจัดงานฯ สำหรับงาน Food & Hospitality Thailand 2024 นั้น ทางบริษัทฯ จะมีการจัดแสดงการออกแบบครัวและอุปกรณ์ที่สามารถใช้พื้นที่ภายในครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยลดต้นทุน ไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่เยอะก็ประกอบอาหารได้หลายเมนู และยังยกโชว์รูมไปไว้ที่งานฯ เพื่อให้ลูกค้าเลือกอุปกรณ์ได้อย่างครบครัน
นายสมศักดิ ยงใจยุธ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอ-ครีม โซลูชั่น จำกัด หนึ่งในผู้นำและผู้เชี่ยวชาญธุรกิจไอศกรีม กล่าวถึง ทิศทางของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มว่า เติบโตขึ้นตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวเมื่อนักท่องเที่ยวกลับมาผู้ประกอบการ โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหารก็มีความมั่นใจในการลงทุนเพื่อเริ่มและขยายธุรกิจมากขึ้น ส่วนธุรกิจไอศกรีมในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ยกเว้นในช่วงสถานการณ์โควิด โดยคาดว่าปี 2024 ธุรกิจไอศกรีมโตเพิ่มได้อีกจากการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่ง ไอ-ครีม โซลูชั่น เป็นหนึ่งในผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจไอศกรีมที่ครบวงจร มีการดำเนินธุรกิจมากกว่า 15 ปี โดยนอกจากจะเป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องทำไอศกรีมนำเข้า แบรนด์ชั้นนำจากอิตาลีมากถึง 95% แล้ว ยังมีอุปกรณ์ วัตถุดิบในการทำไอศกรีม การสอนการทำไอศกรีม และเป็นที่ปรึกษาให้แก่ทั้งผู้เริ่มทำธุรกิจและผู้ประกอบการเดิม ส่วนจุดเด่นของบริษัทฯ คือ การฟังความต้องการและแนวทางธุรกิจของลูกค้าก่อน เพื่อประเมินทางเลือกที่เหมาะสม พร้อมทั้งให้ข้อมูลรายละเอียดข้อดีข้อเสียในการประเมินก่อนการตัดสินใจ มีบริการหลังการขาย การให้คำแนะนำ และเป็นที่ปรึกษากรณีเกิดปัญหาหรือต้องการขยายธุรกิจให้แก่ลูกค้าด้วย
ส่วนการร่วมงานกับ Food & Hospitality Thailand นั้น ไอ-ครีม โซลูชั่น เป็นพันธมิตรมานานถึง 11 ปี เริ่มจาก 1 บูธ จนล่าสุด Food & Hospitality 2024 เตรียมร่วมจัดงานมากถึง 12 บูธ สิ่งที่เราได้รับจากงานฯ ไม่ใช่แค่ความคุ้มค่าด้านยอดขายที่มาจากผู้ร่วมงาน หรือคู่ค้า ผู้ประกอบการที่มีคุณภาพเท่านั้น แต่เป็นการเปิดโอกาสทางธุรกิจที่ได้พบกับกลุ่มลูกค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะลูกค้าจากมาเลเซีย สิงคโปร์ ลาว และ เวียดนาม ที่ล้วนเป็นผลมาจากการร่วมจัดงานฯ อย่างชัดเจน จึงอยากเชิญชวนให้ผู้ประกอบการและผู้สนใจธุรกิจไอศกรีมแวะเยี่ยมชมบูธของ ไอ-ครีม โซลูชั่น และการจัดงาน Food & Hospitality 2024 ในครั้งนี้
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon