BTS จับมือ กทม. เดินหน้า “โครงการ รถคันนี้ #ลดฝุ่น” พร้อมเชิญชวนประชาชน ร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในการผลักดันให้กทม.เป็นเมืองปลอดฝุ่น PM2.5

118

มิติหุ้น-นายดาเนียล รอสส์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการลงทุนและหัวหน้าฝ่ายพัฒนาเพื่อความยั่งยืน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครสนับสนุน “โครงการ รถคันนี้ #ลดฝุ่น” โดยมี นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริหาร และผู้อำนวยการใหญ่สายธุรกิจ MOVE นางสาวนริศรา ศรีสันต์ ที่ปรึกษากลยุทธ์สื่อสารองค์กร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด(มหาชน) และนายสุมิตร ศรีสันติธรรม ผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยนายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้เกียรติเข้าร่วมงานโดยโครงการนี้เป็นการเชิญชวนให้ประชาชนตรวจสอบสภาพรถยนต์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือไส้กรอง เพื่อลดฝุ่น PM2.5 ร่วมกันขับเคลื่อนสร้างเมืองสู่เศรษฐกิจสีเขียว

สำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการสามารถนำใบเสร็จการตรวจสอบสภาพรถ จากภาคีที่เข้าร่วมโครงการ มาแลกรับบัตรกำนัลมูลค่า 100 บาทได้ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส5 แห่งที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ สถานีหมอชิต, สถานีสยาม, สถานีอโศก,สถานีช่องนนทรี และสถานีห้าแยกลาดพร้าวเริ่มตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม 2567 หรือจนกว่าบัตรกำนัลจะหมด

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานคร ขอขอบคุณ บีทีเอสกรุ๊ปฯ ที่เข้าร่วมสนับสนุน “โครงการ รถคันนี้#ลดฝุ่น”พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมลดฝุ่นโดยเริ่มต้นที่ตัวเองด้วยการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องซึ่งจากการบูรณาการไร้รอยต่อลดฝุ่น PM2.5 โดยกรุงเทพมหานครและกระทรวงพลังงานได้ขอความร่วมมือบริษัทผู้ค้าน้ำมัน และบริษัทผู้ค้ารถยนต์จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการใช้น้ำมัน Euro5และบำรุงรักษาเครื่องยนต์ ตามนโยบายปรับเปลี่ยนคุณภาพน้ำมันจาก Euro4 เป็น Euro5 โดยกระทรวงพลังงาน เนื่องจากน้ำมัน Euro5 มีกำมะถันลดลงกว่า 5 เท่า จึงส่งผลให้ลดการปล่อย PM2.5 ในเครื่องยนต์ดีเซลได้กว่า 20%

อีกทั้งกรุงเทพมหานครได้ทำการทดสอบการปล่อย PM2.5จากยานยนต์จำลองดีเซล Euro 3 ที่ผ่านการตรวจควันดำแล้ว ณโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (อาทร สังขะวัฒนะ) เขตทุ่งครุโดยมีการตั้งข้อสังเกตระหว่าง ยานยนต์ที่ไม่มีการบำรุงรักษาและยานยนต์ที่มีการบำรุงรักษาโดยการเปลี่ยนไส้กรองรถยนต์ และน้ำมันเครื่อง ซึ่งได้ทดสอบโดย sensorsตรวจวัดคุณภาพอากาศจากโครงการ AIRLAB Microsensors Challenge 2023 ในห้องขนาดพื้นที่
50 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งผลการทดสอบพบว่า ยานยนต์ที่มีการบำรุงรักษาโดยการเปลี่ยนไส้กรองรถยนต์ และน้ำมันเครื่องสามารถลดการปลดปล่อย PM2.5 ได้จริง ซึ่งการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์และไส้กรองอากาศตามเวลา หรือก่อนระยะเวลาที่กำหนดจะสามารถช่วยลดการปล่อย PM2.5 ได้ถึง 25%และช่วยยืดอายุการใช้งานรถยนต์ได้อีกด้วย

นายดาเนียล รอสส์ กล่าวว่า บีทีเอส กรุ๊ปฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้และมั่นใจว่าเป็นประโยชน์ต่อคนกรุงเทพมหานครอย่างแน่นอน โดยบริษัทฯได้มีการประกอบธุรกิจที่นอกเหนือจากรถไฟฟ้าบีทีเอส

ตามที่ประชาชนทราบอยู่แล้วนั้น บริษัทฯยังมีการให้บริการธุรกิจขนส่งสาธารณะอื่น ๆ ได้แก่ รถบัส เรือด่วนเจ้าพระยา
และล่าสุดที่ได้มีการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto ฯลฯ โดยบริษัทฯได้ให้ความสำคัญกับการดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการประกอบธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาลที่ดีนับตั้งแต่การเปิดให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสในปี 2542 เป็นต้นมาบีทีเอสได้ช่วยให้ผู้โดยสารมีส่วนร่วมในการหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโลกร้อน ไปแล้วกว่า 2.1 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า จากการเดินรถไฟฟ้าจำนวนกว่า 4,000 ล้านเที่ยว ซึ่งเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ จำนวน 222 ล้านต้นซึ่งบริษัทยังเป็นบริษัทขนส่งทางรางแห่งแรก
และแห่งเดียวที่เป็นกลางทางคาร์บอน (CarbonNeutral) และในฐานะที่บีทีเอส กรุ๊ปฯ เป็นบริษัทขนส่งที่ยั่งยืนที่สุดในโลกเรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนทุกการเดินทางที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยรูปแบบใดก็ตาม

ทั้งนี้ประเทศไทยได้มีการกำหนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศเพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG emission) ภายในปี ค.ศ.2065 เพื่อให้เป้าหมายดังกล่าวประสบความสำเร็จจะต้องได้รับความร่วมมือในทุกภาคส่วน จากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการเป็นต้นแบบที่ดีให้กับสังคม และประชาชนในอนาคต บริษัทฯ
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในโครงการครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้น ในอีกหลาย ๆ โครงการกับ กทม. เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานร่วมกันในการผลักดันให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่สะอาด และมีสิ่งแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้น
สำหรับข้อกำหนด และเงื่อนไขการแลกรับบัตรกำนัลมีดังนี้

1. เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือไส้กรองกับภาคีที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่Auto1, FIT Auto, Bangchak, Shell, PT, Autobacs, Cockpit, B-Quik,LIQUI MOLY, Hino, Toyota, Suzuki, Nissan, Mitsubishi Motors,
Isuzu, Honda, Ford, Mazda
2.ผู้โดยสารนำใบเสร็จฉบับจริงของภาคีที่เข้าร่วมโครงการนี้มาแสดงที่ห้องจำหน่ายบัตรโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสที่เข้าร่วมโครงการ 5 สถานี ได้แก่ สถานีหมอชิต, สถานีช่องนนทรี,สถานีสยาม, สถานีอโศก
และสถานีห้าแยกลาดพร้าว
3. ใบเสร็จลงวันที่ 18 ธันวาคม 2566 – 29 กุมภาพันธ์ 2567
4. การให้สิทธิ์นี้ เฉพาะใบเสร็จที่ออกโดยร้านค้าที่ร่วมลงทะเบียนเป็นภาคีกับโครงการนี้เท่านั้น
5. ใบเสร็จต้องเป็นแบบฟอร์มที่มีการระบุหมายเลขทะเบียนรถยนต์อย่างชัดเจนไม่รับใบเสร็จที่เขียนเติมเลขทะเบียนรถด้วยลายมือ
6. ต้องเป็นใบเสร็จฉบับจริงเท่านั้น ไม่รับสำเนาใบเสร็จและใบเสร็จต้องมีเลขที่ผู้เสียภาษีกำกับอยู่ และบริษัทฯ ขอเก็บใบเสร็จสำหรับเป็นหลักฐานในการรับบัตรกำนัล
7. ขอสงวนสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการดังกล่าวเฉพาะสมาชิกแรบบิท รีวอร์ดสเท่านั้น โดยไม่จำกัดระยะเวลาการเป็นสมาชิกของผู้เข้าร่วมโครงการฯ
8. บัตรกำนัลมีมูลค่า 100 บาท สามารถนำมาแลกเป็นมูลค่าในบัตรแรบบิทสำหรับการใช้จ่ายในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส หรือ ร้านค้าที่สามารถชำระเงินด้วยบัตรแรบบิทได้ทั้งนี้บัตรกำนัลไม่สามารถนำมาแลกเป็นเงินสดได้
9. ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถนำใบเสร็จการตรวจสอบสภาพรถเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือไส้กรอง

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon