มิติหุ้น – OR หรือ ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก เปิดเผยว่า บริษัทฯ ทำกำไรสุทธิงวดปี 66 แตะ 11,094 ลบ. โต 7% (YoY) จาก EBITDA ที่เพิ่มขึ้น 598 ล้านบาท ถึงแม้ว่ารายได้ขายและบริการลดลง 20,561 ล้านบาท โดยหลักจากราคาจำหน่ายน้ำมันที่ลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีระดับต่ำ ทำรายได้จากการขายและบริการรวมแตะ 736,408 ลบ. ลดลง 2.6% (YoY) โดยหลักจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลง แม้ภาพรวมปริมาณจำหน่ายปรับเพิ่มขึ้น 796 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 3%
อีกทั้งบริษัทฯ มองว่ากลุ่มธุรกิจ Mobility ผลงานยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงเดิม และกลุ่มธุรกิจ Global ปรับตัวลดลงตามสภาวะตลาด แต่กลุ่มธุรกิจ Lifestyle ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจ Lifestyle บริษัทฯ มีเครือข่ายธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม 4,402 สาขา แบ่งเป็นร้าน Cafe Amazon ในประเทศไทย 4,159 สาขา ต่างประเทศ 22 สาขา ร้านเท็กซัส ชิคเก้น 100 สาขา รวมถึงร้านอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ มีเครือข่าย 121 สาขา
ด้านธุรกิจ Mobility บริษัทฯ ติดตั้งสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า “EV Station PluZ” สะสมแล้วกว่า 859 แห่ง เป็น DC Fast Charge จำนวน 1,618 หัวชาร์จ โดยจำนวนติดตั้งใหม่ในปี 66 มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ ส่งผลให้มีสถานี EV Station PluZ ครอบคลุมแล้ว 77 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมเปิดตัวสถานีบริการ “PTT Station Flagship วิภาวดี 62” เป็นครั้งแรก นับเป็นโมเดลต้นแบบเพื่อรองรับความต้องการใช้งานและการให้ บริการที่เพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ดีบริษัทฯ มองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 67 ขยายตัวที่ 2.7 – 3.7% จากการบริโภคภาคเอกชน และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ เป็นแรงส่งสำคัญ อีกทั้งคาดภาคการท่องเที่ยวและส่งออกฟื้นตัวตามอุปสงค์โลก พร้อมคาดปัจจัยกดดันมาจาก เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ค่าครองชีพและหนี้ครัวเรือนปัญหาภูมิรัฐศาสตร์โลก และผลกระทบเชิงลบจากเอลนีโญ
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon