ในปี 67 โลกการเงินและการลงทุนได้มีอีเวนต์ใหญ่ๆ เกิดขึ้นอยู่ประมาณ 2 เหตุการณ์ คือ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ประกาศอนุมัติให้ Spot Bitcoin ETFs สามารถเปิดซื้อขายได้อย่างถูกกฎหมายของ เมื่อเดือนม.ค. ทำให้นักลงทุนจะสามารถลงทุนผ่านสินทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ได้โดยตรง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล
โดยเหตุการณ์ต่อมาคือ กระแสคาดการณ์ Bitcoin Halving ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือน เม.ย.67 เป็นครึ่งที่ 4 ซึ่งจะจำกัดการขุด Bitcoin ลดลงครึ่งหนึ่ง ส่งผลให้อุปทานลดน้อยลงและมีดีมานด์เพิ่มขึ้น จากสถิติย้อนหลังของราคา Bitcoin หลัง Bitcoin Halving ในครั้งที่ 1 อยู่ 1,042 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 37,657 บาท ครั้งที่ 2 อยู่ที่ 17,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 632,450 บาท ครั้งที่ 3 อยู่ที่ 68,789 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2,486,034 บาท ก่อนที่ราคาจะค่อยๆ ปรับตัวลง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ราคา Bitcoin กลับยืนระดับ 2,000,000 บาท ทำนิวไฮในรอบ 3 ปี ที่เคยทำระดับสูงสุด 2,285,500 บาท ในเดือนพ.ย. 64
เชื่อว่า Bitcoin ยังไปต่อได้
นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า วงการคริปโทเคอร์เรนซีในปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับกองทุนระดับโลกต่าง ๆ เช่น BlackRock, Vanguard ฯลฯ ที่มีมูลค่าประมาณ 130 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมูลค่าของวงการคริปโทเคอร์เรนซีก็ยังนับว่าน้อยอยู่มาก
ซึ่งถ้าหากกองทุน Spot Bitcoin ETFs มีการซื้อขายบิทคอยน์เพียงแค่ 5% ของมูลค่ากองทุน จะทำให้เงินสถาบันจำนวนมหาศาลไหลเข้าสู่ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีมากยิ่งกว่ามูลค่าของตลาดทั้งหมดเสียอีก ขณะที่ Bitcoin Halving ตามสถิติย้อนหลังไม่เคยมีรอบไหนที่ทำ New High ก่อน Halving แบบรอบนี้และต้องคอยจับตาการลงทุน แต่เมื่อดูตามสถิติต่าง ๆ และตัวเลขแล้วเชื่อว่า วงการคริปโทเคอร์เรนซียังมีโอกาสเติบโตได้อีก
แนะสินทรัพย์ที่ลงทุนใน Bitcoin
ทางด้าน นายชยนนท์ รักกาญจนันท์ CEO & Cofounder FINNOMENA ได้เสนอกองทุน ASP-DIGIBLOC ที่วิ่งแรงไม่แพ้กัน โดยให้ผลตอบแทนสูงกว่า 22.15% ในรอบ 1 เดือน ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัล หรือบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน
โดยทรัพย์สินที่ลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ DAPP US ที่ 76.97% , MSTR US ที่ 5.16% , SQ US ที่ 3.62% , MSFT US ที่ 3.12% , MARA US ที่ 2.90% แต่ทั้งนี้ยังให้พิจารณาชะลอการเข้าซื้อ เนื่องจากอัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยงอาจไม่คุ้ม ควรรอจังหวะย่อลงมาอีกหรือถือระยะยาวให้ข้ามช่วงการ halving ของ Bitcoin
ขณะที่ นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ได้แนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับตัวต่อเนื่องของ Bitcoin ได้แก่หุ้น JTS, ZIGA, BROOK และ TTA
อย่างไรก็ดีทุกการลงทุนมีความเสี่ยง อาจทำให้สูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งหมด โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ซึ่งสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง โดยผลตอบแทนในอดีตไม่สามารถยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคตได้
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon