มิติหุ้น – นายโอซามู ซูโด รักษาการประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัทอมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) (AMATA) เปิดเผยว่า ในงานกิจกรรมขอบคุณสื่อมวลชน ภายใต้ธีม “ Outlook 2024″ เพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารและสื่อมวลชน พร้อมสรุปทิศทางและคาดการณ์แนวโน้มปี 2567 สะท้อนผลลัพธ์เชิงบวกที่ได้รับแรงหนุนจากบรรยากาศการลงทุนที่เอื้ออำนวย และมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจสู่ความเป็นเลิศด้านความยั่งยืนมากขึ้น สอดคล้องกับปรัชญาหลักของอมตะที่ว่า ‘All Win’ ซึ่งให้ความสำคัญกับความสำเร็จร่วมกันทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ
นายอาซามูกล่าวถึง แนวโน้มการขายที่ดินเพื่อรองรับการลงทุนในปี 2567 ว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวน การวางเป้ายอดขายที่ดินในปี 2567 เนื่องจากบริษัทยังอยู่ระหว่างรอข้อสรุปการปิดการขายสัญญาซื้อที่ดินของลูกค้าคาดว่ายอดขายที่ดินในปีนี้ น่าจะใกล้เคียงหรือมากกว่าปีที่ผ่านมาสอดรับกับทิศทางการเติบโตเศรษฐกิจในปัจจุบัน ในขณะที่สถานการณ์การเมืองทำให้นักลงทุนให้ความสนใจในการเข้ามาลงทุน เพื่อผลิตสินค้าส่งออก ดังนั้นปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนจึงขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลกที่มีความสำคัญมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การขายที่ดินในปีก่อนที่มีความโดดเด่นในโครงการต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเวียดนาม สอดรับกับทิศทางความต้องการของนักลงทุนและแนวโน้มการลงทุนที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคลัสเตอร์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง สอดรับกับนโยบายการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นับเป็นทิศทางและปัจจัยบวกในการส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่องในขณะที่รัฐบาลของประเทศเวียดนามเองก็ให้การสนับสนุนและส่งเสริมการลงทุนของนักลงทุนมากขึ้น
แนวโน้มการลงทุนในช่วงปีก่อนจนถึงปัจจุบัน มีลูกค้าให้ความสนใจซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัท เพื่อลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตอย่างต่อเนื่อง และได้เข้ามาสำรวจที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของอมตะหลายราย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการจากจีนที่มีความต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศมากขึ้น ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมที่กลุ่มนักลงทุนจีนให้ความสนใจเข้ามาสำรวจที่ดิน คือ นิคมฯ ไทย-จีน ที่ตั้งอยู่ในอมตะซิตี้ ระยอง ทำให้แนวโน้มความต้องการซื้อที่ดินในจังหวัดระยองจากผู้ประกอบการจีนสูงอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ผู้ผลิตรถยนต์ และผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ในปี 2567 คาดว่าสัดส่วนลูกค้าจีนในระยองจะเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ จากการที่ผู้ประกอบการในประเทศจีนมีการย้ายฐานเข้ามาประกอบการตั้งโรงงานในไทยมากขึ้น สาเหตุมาจากปัจจัยสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งประเทศกลุ่มอาเซียนถือเป็นเป้าหมายสำคัญในการย้ายฐานการผลิต ซึ่งไทยมีความพร้อมที่จะรองรับการลงทุนจากมาตรการสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล
นางสาวเด่นดาว โกมลเมศ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน AMATA กล่าวว่า ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการเงินมุ่งเน้นไปที่การเติบโตของรายได้ รวมถึงการจัดการด้านต้นทุน โดยวางแนวทางการบริหารจัดการด้านค่าใช้จ่าย การแสวงหาโอกาสการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงที่มีต้นทุนทางการเงินต่ำ พร้อมการบริหารกระแสเงินสดให้มีความเหมาะสม เพื่อรักษาความยืดหยุ่นในการดำเนินงานให้สอดรับกับสภาวการณ์การเปลี่ยนแปลงของตลาดเงินและตลาดทุนเพื่อให้บริษัทเติบโตต่อเนื่อง รวมทั้ง บริษัทยังมีแผนการระดมทุนโดยนำบริษัท อมตะ ยู จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านการให้บริการระบบสาธารณูปโภคและการให้บริการต่างๆ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในโอกาสต่อไปด้วย
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon