มิติหุ้น-ตลท.ประกาศเปิดรับสมัครผู้จัดการ ตลท. คนที่ 14 แทนนายภากร ปีตธวัชชัย จะครบวาระในช่วงกลางเดือนก.ย. 67
แย้มดูรายชื่อคนสมัคร ล่าสุดยังไม่พบมีใครยื่นจม.เข้ามา อาจเป็นไปได้ว่ายังมีเวลาอีกเป็นเดือน เพราะปิดรับสมัครวันที่ 30 เม.ย. 67
คนใหม่ที่เข้ามาอาจต้องรับศึกหนักภายใต้ภาวะตลาดหุ้นบ้อท่า คนเก่าทำไว้เละเทะน่าดูชม ขาดแคลนทั้ง ดีมานด์และซัพพลาย แล้งยิ่งกว่าฤดูร้อนคงเป็นตลาดหุ้นไทยนี่แหละ
“ภากร” นับเป็นผู้จัดการตลท. คนแรกและคนเดียวที่นั่งในตำแหน่งยาวนานที่สุด ครบ 2 วาระ รวมระยะเวลา 6 ปี
การนั่งในตำแหน่งยาวนาน ไม่ได้การันตี ความดีความชอบ หรือผลงานจะโดดเด่น กลับกลายเป็นว่า ยิ่งนั่งนาน ยิ่งมีเวลาสร้างความเสียหายมากเกินจะบรรยาย
ผลงานชิ้นโบแดง สร้างการจดจำ “ไม่ปรากฎ” พบแต่เรื่องที่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับตลาดทุน ไม่ว่าจะเป็นขยายเวลาการซื้อขายโดยไม่มีเหตุผลซัพพอร์ต ปล่อยให้โปรแกรมเทรด บรรดาโรบอทเทรดอาละวาดจนรายย่อยอยู่ไม่ได้
ปัญหาเรื่องโปรแกรมเทรด ยังไม่สามารถแก้ไข คงกลายเป็นปมให้คนใหม่มาแก้ไข
แต่เริ่มเห็นว่าตั้งแต่ต้นปีมานี้ ตลท.คลอดเกณฑ์ดูแลการซื้อขายเกี่ยวกับโปรแกรมเทรดยุบยับมาก เพียง 3 เดือนแรกของปี 67 ออกเกณฑ์มากกว่าตลอด 6 ปีที่ผ่านมาเสียอีก
จะมาขยันเอาป่านนี้…เพื่ออออ !!!! ทำงานหนักก่อนจะทิ้งทวน… ว่าซั่น
“มาตรการที่เห็นออกมาในระยะนี้ เป็นเรื่องที่ค้างคามานาน และควรจะทำมานานแล้ว แต่เพิ่งออกมา ซึ่งมันไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ ทำงานเหมือนทำตามกระแส เหมือนออกกฎไปอย่างนั้น ไม่ได้คิดให้รอบคอบ มาออกกฎคุมเข้มในภาวะที่ตลาดมันวายไปแล้ว ไม่ก่อประโยชน์อะไรสิ่งที่ต้องการจากผู้จัดการตลท.คนใหม่ คือไม่ควรบริหารงานโดยยึดในมุมมองของฟากเอกชนเหมือนที่ผ่านมาจนละเลยหน้าที่ที่ต้องดูแลในภาพรวม ตลาดหุ้นไทยขณะนี้ต้องการคนที่เข้าใจตลาดหุ้น สภาพตลาด สภาพของนักลงทุนทุกกลุ่ม” อดีตผู้บริหารตลท. รายหนึ่งกล่าวไว้
จะว่าไป “ผู้จัดการคนดี” ได้สร้างผลงานทิ้งทวนชิ้นโบแดงไว้เหมือนกันนะ และจะสร้างการโจษจันไปอีกนานคงหนีไม่พ้น งบปี 66 ซึ่งปีสุดท้ายก่อนเกษียณ บริหารงานจนมีรายได้จากการดำเนินงาน 7,085 ลบ. ลดลง 666 ลบ. หรือ 9% จากปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 1,280 ลบ. หดตัว 9% จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 1,406 ลบ.
เหตุผลที่รายได้หดตัว มาจากรายได้หลัก “ค่าฟีจากการซื้อขายหลักทรัพย์” เหลือเพียง 1.29 พันลบ. ลดลง 30% จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 1.85 พันลบ. หดตัวตามวอลุ่มซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน เหลือเพียง 5.33 หมื่นลบ. ลดลง 31% หรือหายวับไป 2.34 หมื่นลบ. จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 7.67 หมื่นลบ.ต่อวัน
กำไรหดหาย แต่ยังยืนหยัดจ่ายโบนัสฉ่ำ ๆ ให้กับ ผู้จัดการตลท. และผู้บริหารระดับสูง จำนวน 30 คน รวมเป็นเงิน 323 ลบ. เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าจ่ายเพียง 287 ลบ.
เห็นแบบนี้แล้วบอกได้คำเดียวว่า….ใครไหวไปก่อนเลย
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon