ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจของทั้งสหรัฐฯ
และจีนปรับตัวสูงขึ้น
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังคาดการณ์ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีนปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนอุปสงค์น้ำมัน โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (PMI) ของสหรัฐฯ ในเดือน มี.ค. 67 ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 50.3 จากระดับ 47.8 ในเดือน ก.พ. 67 ซึ่งถือเป็นระดับสูงกว่า 50 ครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 65
+ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือน มี.ค. 67 ที่ผ่านมา ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 50.8 จากระดับ 49.1 ในเดือน ก.พ. 67 ซึ่งเป็นการขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน และปรับสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 49.9
+ ตลาดได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันดิบจะอยู่ในภาวะตึงตัว เนื่องจากกลุ่ม OPEC+ มีแนวโน้มที่จะดำเนินนโยบายลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจต่อเนื่อง โดยนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีของรัสเซีย กล่าวว่าบริษัทน้ำมันของรัสเซียจะมุ่งเน้นไปที่การลดผลผลิตมากกว่าการส่งออกในไตรมาสที่สอง เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าว
ราคาน้ำมันเบนซิน : ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากประชาชนสหรัฐฯ จะเดินทางมากขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นฤดูกาลขับขี่ นอกจากนี้ โรงกลั่นหลายแห่งในสหรัฐฯ กำลังดำเนินการปิดซ่อมบำรุงตามฤดูกาล ซึ่งอาจส่งผลต่ออุปทานน้ำมันเบนซินให้ปรับตัวลดลง
ราคาน้ำมันดีเซล : ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังการส่งออกน้ำมันดีเซลของจีนคาดว่าจะปรับตัวลดลงในเดือน เม.ย. และ พ.ค. 67 ท่ามกลางการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นในภูมิภาค นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันดีเซลของสิงค์โปร์ปรับตัวลดลงประมาณ 2% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon