ESG เทรนด์ธุรกิจแห่งยุค ตอบโจทย์การลงทุนระยะยาว

101

มิติหุ้น  –  หัวใจสำคัญของการลงทุนของบิ๊กคอร์ป หรือกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ในการทำธุรกิจในยุคนี้และต่อไป ไม่อาจโฟกัสกับการทำกำไรเพียงอย่างเดียวได้อีกต่อไป แต่ต้องคำนึงถึงการสร้างมูลค่าระยะยาวในหลากหลายมิติทั้ง ลูกค้า คู่ค้า พนักงาน  และสังคมส่วนรวม   เนื่องจากมีการเชื่อมโยงพึ่งพากันระหว่างสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ที่ทำให้ภาคธุรกิจต้องกลับมาใส่ใจให้ความสำคัญและร่วมดูแลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้องค์กรเติบโตได้ในระยะยาว แนวคิด ESG หรือแนวคิดความยั่งยืนจึงจำเป็นสำหรับทางรอดของธุรกิจ ขณะเดียวกันก็จะเป็นทางเลือกที่สำคัญของนักลงทุนในยุคนี้

 

ทำไมนักลงทุนทั่วโลก ถึงสนใจลงทุนในบริษัทที่ให้ความสำคัญเรื่อง ESG 

ผู้คนยินดีจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่ออุดหนุนธุรกิจที่ช่วยดูแลชุมชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นวิกฤตที่ต้องเร่งแก้ไขเพื่อโลกที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น ทำให้นักลงทุนทั่วโลกต่างหันมาให้น้ำหนักกับ ESG หรือแนวคิดการทำธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนที่ไม่มุ่งเน้นผลกำไรเพียงอย่างเดียว ในการพิจารณาประกอบการลงทุนโดยให้ความสำคัญกับธุรกิจที่คำนึงถึงผลกระทบต่อ Environment- สิ่งแวดล้อม ได้แก่ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า การลดมลภาวะ การลดก๊าซเรือนกระจก Social – สังคม ได้แก่ การปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเป็นธรรม การเคารพสิทธิมนุษยชน การมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน และ Governance – ธรรมาภิบาล ได้แก่ การบริหารงานขององค์กรอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันของบริษัทและการบริหารจัดการความเสี่ยงในมิติต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลที่ดีต่อการลงทุนในระยะยาวอีกด้วย

 

จะรู้ได้อย่างไร ว่าบริษัทไหนให้ความสำคัญเรื่อง ESG ที่น่าเชื่อถือได้

ที่ผ่านมาเราได้เห็นหลายองค์กรนำ ESG มาตั้งเป็นหนึ่งในเป้าหมาย แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าบริษัทนั้นอยู่บนหลักการ ESG มากน้อยแค่ไหน ตัวชี้วัดความสำเร็จคือคำตอบ แม้ขณะนี้จะมีตัวชี้วัดประเมินผลบริษัทด้านการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนหลายแห่งด้วยกัน แต่หนึ่งในตัวชี้วัดสากลที่นักลงทุนสถาบันทั่วโลกให้การยอมรับและใช้เป็นข้อมูลการลงทุน คือ ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) ภายใต้การบริหารของ S&P Global ที่มีการใช้กระบวนการคัดเลือกอย่างเข้มข้น โปร่งใส ด้วยมาตรฐานการประเมิน ESG ครบทุกด้านทั้ง เศรษฐกิจ/ ธรรมาภิบาล สังคม และสิ่งแวดล้อม จึงการันตีได้ว่าบริษัทที่ผ่านประเมินดัชนีความยั่งยืน DJSI นั้นต้องเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ไม่เพียงโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจแต่ยังสนับสนุนให้ธุรกิจมีความยั่งยืนเติบโตได้ในระยะยาว

 

บริษัทที่ ได้ DJSI สะท้อนอะไร

ดัชนีความยั่งยืนระดับเวิลด์คลาส DJSI เป็นดัชนีหลักทรัพย์ของบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ผ่านการประเมินความยั่งยืน ที่มีผู้ลงทุนสถาบันและกองทุนต่างๆ ทั่วโลกให้ความสนใจลงทุน คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.8 แสนล้านบาท ในประเทศไทยได้มีการสำรวจผลตอบแทนหุ้นไทยใน DJSI โดยฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่าผลตอบแทนรวมสะสมย้อนหลังอยู่ในระดับที่ดี สะท้อนว่าบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนจนเป็นที่ยอมรับระดับสากล ไม่ได้เน้นผลกำไรแต่เพียงอย่างเดียว เป็นบริษัทที่มีความพร้อมในการสร้างคุณค่าระยะยาวช่วยลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ

 

ประเทศไทยทุบสถิติ DJSI คว้าคะแนนสูงสุดอันดับ 1 ของอุตสาหกรรม

เป็นเรื่องน่ายินดีที่ในปี 2023 บริษัทไทย ยังคงยืนหนึ่งเรื่องความยั่งยืนระดับโลก จากประกาศบริษัททั่วโลกใน S&P Global Yearbook 2024  มีหลายบริษัทชั้นนำในไทย ที่เข้ารับการประเมินร่วมกับบริษัททั่วโลก มากกว่า 3,500 บริษัท ใน 62 กลุ่มอุตสาหกรรม  โดยพิจารณาจากการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG ที่กำหนดไว้ตามเกณฑ์ของดัชนี DJSI และได้คะแนนสูงสุดของโลก อาทิ  BTS,  BDMS, BJC, OR, SCGP,  TOP, TRUE, PTTGC, TU    อีกทั้งยังได้คะแนนสูงสุดมากอย่างต่อเนื่องหลายปี  ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนและสร้างความเชื่อมั่นในสายตานักลงทุนทั่วโลก

 

บริษัทไหน ผ่านการประเมิน DJSI 2023 ได้คะแนนสูงสุดของโลกในกลุ่มธุรกิจไหนกันบ้าง ?

เอสซีจี คะแนนสูงสุดอันดับ 1 จากดัชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI  กลุ่มวัสดุก่อสร้าง 10 ปี
ไทยออยล์ คะแนนสูงสุดอันดับ 1 จากดัชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI  กลุ่มอุตสาหกรรมการตลาด และการกลั่นน้ำมันและก๊าซ 8 ปีต่อเนื่อง (2559 – 2566)
ทรู คอร์ปอเรชั่น คะแนนสูงสุดอันดับ 1 จากดัชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI กลุ่มสื่อสารโทรคมนาคม  6  ปีต่อเนื่อง (2561- 2566)
PTTGC คะแนนสูงสุดอันดับ 1 จากดัชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ 5 ปีต่อเนื่อง (2562 – 2566)
มบีทีเอส กรุ๊ป คะแนนสูงสุดอันดับ1 ดัชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI ในกลุ่มอุตสาหกรรมคมนาคม 4  ปีต่อเนื่อง (2563-2566)
ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป คะแนนสูงสุดอันดับ 1 จากดัชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร 4 ปี

(2561, 2562, 2565, 2566)

เบอร์ลี่ ยุคเกอร์

(บีเจซี)

คะแนนสูงสุดอันดับ 1 จากดัชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI ในกลุ่มอุตสาหกรรมค้าปลีกอาหารและอุปโภค บริโภค (Food & Staples Retailing) 2 ปี ต่อเนื่อง (2565 – 2566)
OR คะแนนสูงสุดอันดับ 1   จากดัชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก เป็นปีแรก (2566)
BDMS คะแนนสูงสุดอันดับ 1 ดัชนีความยั่งยืน DJSI ของโลก กลุ่มบริการทางการแพทย์ เป็นปีแรก (2566)

 

 

ทรู คอร์ปอเรชั่น ติดอันดับท็อปความยั่งยืนระดับโลกอย่างต่อเนื่อง 6 ปีซ้อน

ตัวอย่าง บริษัทที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ กับบทพิสูจน์ความมุ่งมั่นของเทเลคอม เทคคอมปานีไทย ทรู คอร์ปอเรชั่น ที่ในปีนี้ นอกจากจะเป็น 1 ใน 14 บริษัทที่ได้รับการจัดอันดับในระดับ Gold Class ของ S&P Global Yearbook 2024 แล้ว ยังคว้าอันดับ 1 ดัชนีความยั่งยืน DJSI ปี 2023 ด้วยคะแนนสูงสุด ในกลุ่มโทรคมนาคมของโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ด้วยการนำศักยภาพของโครงสร้างพื้นฐาน ระบบนิเวศดิจิทัลครบวงจร และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาร่วมผลักดันการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ ที่พร้อมเดินหน้าสร้างคุณค่าในระยะยาวให้แก่ผู้คนในสังคมและประเทศ

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon