เป็นที่ทราบกันดีว่าในยุคนี้มีผู้มากบารมีในตลาดหุ้นไทย…แต่ขอไม่ก้าวล่วงเพียงแต่…เรื่องมันมีอยู่ว่าการปฏิบัติหน้าที่ของผู้จัดการตลาด…แสดงพฤติกรรมที่ดูแล้วไม่สง่างามสมกับตำแหน่ง และที่สำคัญควรดูแลบริษัทจดทะเบียนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกัน และที่สำคัญเพื่อประโยชน์สูงสุดของนักลงทุนด้วย ซึ่งหาไม่เคยได้เลยในยุคนี้
และแล้วเรื่องราวก็มาถึงบางอ้อเมื่อครั้งมีการปรับแก้เกณฑ์ SET50-SET100 ในช่วงหนึ่งเมื่อปี 2564 ซึ่งต้นเรื่องมาจาก หุ้นตัวแสบ DELTA กลุ่มทุนไต้หวัน อาศัยช่องโหว่ลากกันขึ้นไปจากราคาไม่ถึง 50 บ.ไป 700-800 บ. เพราะ Free Float ต่ำ คุมหุ้นในกระดานง่าย ร้อนถึง ตลท.ที่จะต้องแก้เกมใหม่ เปิดเฮียริ่งแก้เกณฑ์ SET50-SET100 สกัดหุ้น Free Float ต่ำ แต่ไปเจอตาปลาหุ้นของผู้มากบารมี…เสี่ยงจะต้องหลุดไปด้วยนี่เอง แม้ว่าเรื่องนี้ผู้มากบารมีจะไม่เกี่ยวข้องตอนต้นเรื่อง แต่กลับจะมาโดนหากเลขผู้มากบารมีจึงเกิดความไม่พอใจ ตลท.ก็คงหัวหมุนกันละทีนี้จะทำอย่างไร
สาเหตุเพราะหุ้นตัวแสบ DELTA เข้ามา SET50 อย่างง่ายดายซะเหลือเกินทำตลาดปั่นป่วนไปหมด โดยเฉพาะกองทุน Passive Fund ที่ลงทุนอิงดัชนี จะต้องปรับสัดส่วนเพิ่มน้ำหนักถือหุ้นที่นักวิเคราะห์แนะ “ขาย” พื้นฐานก็ไม่รองรับ PE พุ่งเฉียด 100 เท่า สุดท้ายรอบแรกผลเฮียริ่งก็ถูกพับแผนไป เพราะผลเฮียริ่งส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยไม่รู้ว่าโชคดีของหุ้นที่โดนหางเลขหรือความจงใจกันแน่
ล่าสุดเอาอีกแล้ว ตลท.เปิดเฮียริ่ง SET50-SET100 อีกครั้งซึ่งปีนี้สดๆร้อนๆ โดยล่าสุดกำลังอยู่ในช่วง เฮียริ่งเกณฑ์ใหม่กันอยู่จนถึง 26 เม.ย. 2567 จนมาถึงบางอ้อ เมื่อ บทวิเคราะห์หลายสำนักออกมาแสดงความคิดเห็นเป็นไปในทิศทางทางเดียวกันคือ มีหุ้นของผู้มากบารมีเสี่ยงจะหลุดSET50-SET100 ไปด้วย
โดยเกณฑ์ใหม่ จะมีการปรับ Trading value ไม่น้อยกว่า 25% และ Turnover ratio ไม่น้อยกว่า 1% จากเกณฑ์ปัจจุบัน Trading value 50%และลดลงได้ครั้งละ5% ต้องไม่น้อยกว่า 20% Turnover ratio 2% และลดได้ครั้งละ 0.50% แต่ต้องไม่น้อยกว่า1%
โดยส่วนหนึ่ง ตลท.ก็ให้เหตุผลของการปรับว่า เพราะสภาพตลาดที่ซบเซาวอลุ่มซื้อขายลดฮวบๆจากระดับเฉลี่ย 7-8 หมื่นลบ./วัน เหลือไม่ถึง 4-5 หมื่นลบ./วัน ซึ่งวอลุ่มจะไม่หดหายเลยถ้าไม่ปล่อยให้ “กลุ่มก๊วนเหลือบไร” เอาเปรียบรายย่อยยังลอยนวล ดัชนีก็สาละวันเตี้ยลง หลุดนิวโลว์รอบปีไปแล้ว ปิดล่าสุดที่ 1,332.08 จุด (19 เม.ย.67) ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นๆเขาทำนิวไฮกันไปแล้วในปีนี้ ไม่ต้องไปอ้างหรอกว่า “เพราะภาวะปัจจัยภายนอก” เพราะยามหุ้นทั่วโลกขึ้นแต่ทำไมหุ้นไทยลง ยามหุ้นโลกลงก็หุ้นไทยก็ยังคงลงด้วยควรพิจารณาดูให้ถ่องแท้
สุดท้าย หากจะทำผลงานอย่างจริงจัง เพื่อสร้างคุณประโยชน์กับตลาดทุน และนักลงทุนอย่างแท้จริง โดยไม่หวังแต่ผลประโยชน์ส่วนตนจนเกินไป เผื่อจะได้มีคนสรรเสริญบ้างในสภาวะที่ตลาดหุ้นซบเซาวอลุ่มที่เบาบาง เช่นนี้การยกเลิก HFT ชั่วคราวแบบไม่มีกำหนด ก็ไม่ใช่เรื่องถอยหลังเข้าคลองแต่อย่างใด ด้วยเหตุผลเดียวกัน “สภาพตลาดที่ซบเซาวอลุ่มที่เบาบางการปล่อยให้ใช้ HFT ก็ไม่เหมาะไม่ควรกระมัง ยังจะพอฟังขึ้นว่าเป็นผลงานได้บ้าง ซึ่งเท่าที่ทราบมีแค่ 5 โบรกเท่านั้น ที่ให้บริการก็ไม่ได้มากมายอะไร ฝากเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายก่อนที่ผู้จัดการตลาดจะสละอำลาตำแหน่งไป ถ้าคิดถึงรายย่อยจริง!!!!!!!!
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
