มิติหุ้น – ตลาดผันผวน: ภัยคุกคามของนักลงทุน
ในช่วงนี้ ตลาดการเงินทั่วโลกเผชิญกับความผันผวนอย่างมาก จากปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ เช่น ความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน และความไม่แน่นอนของการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ราคาหุ้นและสินทรัพย์มีความไม่แน่นอนและผันผวนมาก สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนไม่น้อย
สำหรับนักลงทุนทั่วไปที่อาจจะยังไม่มีประสบการณ์มากนัก การลงทุนในภาวะตลาดผันผวนนี้อาจจะมีความเสี่ยง บทความนี้จึงขอนำเสนอแนวทางการลงทุนที่ปลอดภัย ช่วยให้นักลงทุนสามารถรักษาเงินทุนและสร้างผลตอบแทนได้อย่างมั่นคง
ทำไมต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ?
ในภาวะตลาดผันผวน การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะมีความเสี่ยงที่มูลค่าเงินลงทุนจะลดลงจากราคาหุ้นที่ตกลง นักลงทุนจึงควร หันมาลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย หรือ สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ แทน
สินทรัพย์ปลอดภัย หรือ สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ คืออะไร?
สินทรัพย์ปลอดภัย หรือ สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ คือ สินทรัพย์ที่นักลงทุนมีโอกาสสูญเสียเงินลงทุนต่ำ มีความเสี่ยงต่ำ และน่าจะสามารถรักษาเงินลงทุนของนักลงทุนไว้ได้ ตัวอย่างสินทรัพย์ปลอดภัย ได้แก่
- พันธบัตรรัฐบาล: หากเราลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล จะถือได้ว่าเราเป็นเจ้าหนี้รัฐบาล จึงอาจถือได้ว่าพันธบัตรรัฐบาลนี้มีความเสี่ยงต่ำที่สุด อย่างไรก็ตาม การซื้อพันธบัตรรัฐบาลอาจไม่สามารทำได้โดยง่ายสำหรับนักลงทุนทั่วไป และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลก็อยู่ในระดับต่ำ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 1 ปี จะเท่ากับประมาณ 2.20 – 2.40% ต่อปี เท่านั้น
- เงินฝาก: เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำเช่นกัน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของเงินฝากจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับประเภทเงินฝาก โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ก็อยู่ในระดับต่ำเช่นกัน โดยอยู่ที่ระดับประมาณอยู่ที่ 0.30 – 2.25% ต่อปี เท่านั้น
- หุ้นกู้บริษัทเอกชน: บริษัทเอกชนหลายๆ แห่ง นิยมระดมทุนสำหรับการดำเนินธุรกิจผ่านการออกและเสนอขายหุ้นกู้ ซึ่งหากเราลงทุนในหุ้นกู้แล้ว เราจะมีถือได้ว่าเป็นเจ้าหนี้ของบริษัทเหล่านั้น และจะได้รับผลตอบแทนตามอัตราดอกเบี้ยที่กำหนด หุ้นกู้บริษัทเอกชนขนาดใหญ่ที่มีความมั่นคงอาจถือได้ว่ามีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ และได้รับผลตอบแทนที่น่าสนใจ
หุ้นกู้บริษัทเอกชน: ตัวเลือกที่น่าสนใจ
หุ้นกู้บริษัทเอกชน เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนในภาวะตลาดผันผวน ด้วยเหตุผลดังนี้
- อัตราผลตอบแทนที่แน่นอน: นักลงทุนสามารถทราบอัตราผลตอบแทนที่แน่นอนล่วงหน้า ไม่ต้องกังวลกับความผันผวนของราคาตลาดเหมือนหุ้น โดยอัตราผลตอบแทนของหุ้นกู้บริษัทเอกชนคุณภาพดี จะอยู่ในระดับประมาณ 2.60 – 4.90% ต่อปี
- ความเสี่ยงต่ำ: หุ้นกู้บริษัทเอกชนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะ หุ้นกู้ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับกลุ่ม A ขึ้นไป ถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคง
- กระจายความเสี่ยง: นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงได้โดยลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทในหลากหลายอุตสาหกรรม
- สนับสนุนธุรกิจไทย: การลงทุนในหุ้นกู้บริษัทเอกชน ช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจไทย
อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจลงทุนในหุ้นกู้บริษัทเอกชน นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด สามารถพิจารณาปัจจัยต่างๆประกอบ เช่น
- สถานะทางการเงินของบริษัท: ควรเลือกบริษัทที่มีสถานะทางการเงินมั่นคง และมีแนวโน้มเติบโตในอนาคต
- ประวัติการชำระหนี้: ควรเลือกบริษัทที่มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้
- ความเสี่ยงของธุรกิจ: ควรเลือกบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงต่ำ ไม่ผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ เช่น ธุรกิจโทรคมนาคม ธุรกิจด้านสาธารณูโภคต่างๆ ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ น่าจะมีกระแสเงินสดสม่ำเสมอ แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะไม่ได้เติบโตมากนัก (เศรษฐกิจไม่ดีคนก็ยังคงซื้อสินค้าหรือใช้บริการเหมือนเดิม)
- การให้ความสำคัญ และ ส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG)
จะเห็นได้ว่าแม้ในภาวะตลาดที่มีความผันผวน หากนักลงทุนศึกษาข้อมูลอย่างรอบครอบ กระจายความเสี่ยง และรู้จักเลือกลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยหรือสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ นักลงทุนจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตและสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงได้อย่างแน่นอน
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon