มิติหุ้น – นายทศพร จิตตวีระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) หรือ FLOYD ผู้ให้บริการรับเหมาติดตั้งงานวิศวกรรมระบบสาธารณูปโภค และระบบดาต้าเซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในงวดแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 83.26 ล้านบาท ลดลง 36.29 ล้านบาท หรือลดลง 30.36% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เกิดจากงานโครงการต่างๆ อยู่ในช่วงเริ่มต้นโครงการซึ่งมีความคืบหน้าของงานยังไม่มาก เนื่องจากบริษัทฯ รับรู้รายได้ตามขั้นความสำเร็จของงาน และมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 6,000 บาท
โดยบริษัทฯได้วางแผนสำหรับธุรกิจในช่วงต่อจากนี้ บริษัทฯยังคงเดินหน้า 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.Engineering Services งานระบบเครื่องกลและไฟฟ้าอาคาร สำหรับอาคารสำนักงาน โรงงาน โกดังสินค้าและห้างสรรพสินค้า 2.Residential & Hotels อาคารพักอาศัย หรือโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่ต้องการทักษะความชำนาญพิเศษในการติดตั้ง และ 4.Technologies โครงสร้างพื้นฐานงานระบบเครื่องกลและไฟฟ้าสำหรับศูนย์ข้อมูล (Data center) และอาคารอัจฉริยะ (Smart Buildings)
โดยความสำเร็จล่าสุด บริษัทฯ ได้แจ้งข่าวสามารถคว้างานติดตั้งระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร 2 โครงการใหม่ จากบิ๊กศูนย์การค้าส่งชั้นนำ ได้แก่ โครงการศูนย์การค้าส่ง Go Wholesale จาก เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ และโครงการ โฮมโปร x เมกาโฮม สาขาระยอง โมเดลไฮบริด จาก โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ รวมแล้ว 2 โครงการ เป็นมูลค่ากว่า 115.56 ล้านบาท และกำลังจะมีข่าวดีเรื่องการได้รับงานใหม่เพิ่มเติมอีกเร็วๆนี้ ส่งผลให้ปัจจุบัน บริษัท มีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 638.32 ล้านบาท
สำหรับบรรยากาศของการลงทุนภายในประเทศ มองว่าเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะช่วยกระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุนภายในประเทศให้คึกคัก รวมถึงยังเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชน ที่ทยอยเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ อาคารมิกซ์ยูส ห้างสรรพสินค้าและค้าปลีกที่มีแนวโน้มขยายตัว เพื่อรองรับการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ ซึ่งเพิ่มโอกาสในการรับงานใหม่ของบริษัทฯด้วยเช่นกัน
“FLOYD ยังคงเดินหน้าธุรกิจควบคู่ไปกับการจัดการด้านต้นทุนที่รัดกุม สะท้อนให้เห็นถึงการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนค่าวัสดุก่อสร้างที่สูงขึ้น ซึ่งมีสาเหตุมาจากปัจจัยการผลิตที่ปรับตัวจากราคาพลังงานในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น และความผันผวนของราคาวัตถุดิบ อาทิ ทองแดง เหล็ก รวมทั้ง ต้นทุนค่าแรงขั้นต่ำ เพื่อควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมหนุนให้การดำเนินงานของบริษัทฯ เป็นไปตามเป้าหมายหลักในการสร้างผลตอบแทนจากการดำเนินงานให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างมั่นคงและยั่งยืน ตั้งเป้าปี 2567 จะเป็นปีที่ดีของเรา วางเป้ารายได้เติบโต 50% จากปีก่อน” นายทศพร กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon