มิติหุ้น – KCE โดย บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า งบ Q2/67 คาดรายได้รวมเพิ่มขึ้น q-q ยังมี Backlog HDI ค้างส่งอยู่ราว 2.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และจะทำ GPM ได้ดีขึ้นจากค่าเงินบาทอ่อนค่าลงกว่าไตรมาสแรก และไตรมาสนี้จะมีกำไรพิเศษจากการขายโรงงานเพิ่มเข้ามาซึ่งถูกเลื่อนมาจากไตรมาสแรก คาด Q2/67 มีกำไรปรับตัวดีขึ้น y-y และ q-q
สหรัฐฯประกาศขึ้นภาษีนำเข้ายานยนต์ไฟฟ้าจากจีน เป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตยานยนต์ในประเทศมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น ปัจจุบันการแข่งขันด้านราคาในอุตฯยานยนต์ไฟฟ้าสูงขึ้น ทุกคนในอุตฯต้องปรับตัวรวมไปถึง KCE ปีนี้ปรับ Product mix สัดส่วน HDI เพิ่มขึ้นจากความต้องการด้าน high technology ที่มากขึ้น และลดสัดส่วน PCB ลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และมีนโยบาย cost saving 1. มีเครื่องจักรและเทคโนโลยีใหม่มาทดลองใช้ จะทำให้ลดต้นทุนวัตถุดิบและจะสามารถลดต้นทุนแรงงานและค่าไฟได้ตามกัน 2.ทำเคมีเอง คาด Q2/67 ต้นทุนการผลิตจะลดลงได้ แต่ในช่วง 2H67 ยังมีปัจจัยที่กระทบด้านต้นทุนจากราคาทองแดงที่ปรับตัวสูงขึ้นและนโยบายขึ้นค่าแรง
ทางฝ่ายมองทิศทางดอกเบี้ยของ ECB คาดว่าอาจปรับลดลงในช่วง 2H67 ซึ่งจะทำให้ sentiment ของ KCE ดีขึ้น เนื่องจากสัดส่วนรายได้มาจากยุโรปกว่า 47% คาดรายได้ทั้งปี 67 ที่ 17,233 ลบ.กำไรสุทธิ 2,014 ลบ.ประเมินราคาหุ้น โดยใช้ P/E +1STD เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่เฉลี่ย 29.8เท่า ราคาพื้นฐาน 50.75 บาท/หุ้น คงคำแนะนำ “ซื้อ”
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon