มิติหุ้น – JMT
JMT มีกำไรสุทธิ 418 ล้านบาท (-8% yoy, -23% qoq) ใน 1Q24 ซึ่งต่ำกว่าประมาณการของเรา 20% และมีสัดส่วนเพียง 18.5% ของประมาณการทั้งปีของเรา/Bloomberg consensus
ยอดจัดเก็บหนี้ (cash collection) รวม 2.1 พันล้านบาท (+8% yoy, -15% qoq) ใน 1Q24 ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ ดังนั้น แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะยังสอดคล้องกับประมาณการ แต่ยอดจัดเก็บหนี้ที่ลดลงทำให้ JMT มีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) สูงกว่าคาด 25% หรือที่ 191 ล้านบาท (+69% yoy, +51% qoq)
ยอดจัดเก็บหนี้ใน 1Q24 ประกอบด้วยยอดจัดเก็บของ JMT จำนวน THB 1.45 พันล้านบาท (+6% yoy, -5% qoq) และของบริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค (JK-AMC) จำนวน 657 ล้านบาท (+14% yoy, -32% qoq) ซึ่งส่วนแบ่งกำไรจาก JK-AMC ที่เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง JMT และธนาคารกสิกรในสัดส่วน 50:50 ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์มากเช่นกันที่ 82 ล้านบาท (-39% yoy, -49%
qoq) ใน 1Q24
เราเชื่อว่าความสามารถในการช าระหนี้ของครัวเรือนไทยถูกกดดันจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวต ่า (นักเศรษฐศาสตร์ของเราคาดว่า GDP จะขยายตัวไม่เกิน 1% yoy ใน 1Q24) ส่งผลกระแสเงินสดจากการจัดเก็บหนี้ของ JMT ชะลอตัว
JMT มีการลงทุนซื้อ NPL เพิ่มเพียง 192 ล้านบาทใน 1Q24 (vs. 1Q23: 1.4 พันล้านบาท) ซึ่งน่าจะเป็นเพราะบริษัทมีข้อจำกัดด้านกระแสเงินสดและอุปทาน NPL ในตลาดมีไม่มากนัก
เราเชื่อว่า JMT จะมียังมีอัตราการสำรองหนี้สูญสูงในปี FY24-25 เนื่องจากยอดจัดเก็บหนี้มีแนวโน้มอ่อนตัวและบริษัทน่าจะขาย NPA ได้ช้าในช่วงที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังเปราะบาง
ปรับลดคำแนะนำเป็น “ถือ” และปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 18 บาท
#Macro&WealthResearch
#CGSInternational
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon