
นายไพโรจน์ จันทรอด ผู้อำนวยการเขตหนองจอก เปิดเผยว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด กทม. ร่วมกับภาคเอกชนและประชาชน ปลูกต้นไม้เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศเมืองที่ดี ทั้งในพื้นที่ความรับผิดชอบของ กทม. พื้นที่สาธารณะ สถานประกอบการ บ้านเรือนประชาชน เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวเป็นกำแพงต้นไม้กรองฝุ่นทั่ว กทม. และยังเป็นการช่วยบรรเทาผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน ซึ่งพื้นที่ทำกิจกรรมในวันนี้ เป็นพื้นที่ว่างเปล่าที่ไม่มีการใช้ประโยชน์ รวมทั้งหมด 16 ไร่ ซึ่ง กทม. และภาคเอกชน คือ ซีพีเอฟ มีแผนในการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งสำหรับประชาชนใช้ประโยชน์จากสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นต่อไป
“ขอขอบคุณซีพีเอฟ ที่ร่วมมือกับเขตหนองจอก กทม. มาปลูกป่าในวันนี้ เป็นการสร้างปอดให้กับคนกรุงเทพ และยังคืนประโยชน์กลับสู่สังคมด้วย” ผู้อำนวยการเขตหนองจอก กล่าว
ด้าน นายณฤกษ์ มางเขียว กล่าวว่า ซีพีเอฟ ดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นต้นทางของการสร้างความมั่นคงทางอาหาร มุ่งมั่นมีส่วนร่วมปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ สอดรับกับเป้าหมาย SDGs ข้อ 13 รับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ ข้อ 15 ปกป้อง ฟื้นฟูและสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน และหยุดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
นายกฤษณ์ ศรีเคลือบ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบดินทรเดชาฯ 4 กล่าวว่า ความร่วมมือในกิจกรรมปลูกต้นไม้ในวันนี้ จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับคน กทม. ช่วยลดโลกร้อน และบรรเทาปัญหาภาวะก๊าซเรือนกระจก อยากเชิญชวนให้ทุกคนร่วมกันปลูกต้นไม้เพื่อสร้างอากาศที่ดี เช่นเดียวกับ นางสาวลภาภัทร จ้ำเหล่ นักเรียนชั้นเดียวกัน เสริมว่ากิจกรรมนี้ยังช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวรอบๆโรงเรียนของเราและแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ ที่สำคัญพื้นที่ปลูกต้นไม้อยู่ใกล้โรงเรียน ทำให้พวกเรามีโอกาสที่จะมาช่วยดูแลให้ต้นไม้เจริญเติบโต
ในส่วนของ ซีพีเอฟ มีโครงการด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งเพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู ปลูกป่าใหม่ เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าต้นน้ำและป่าชายเลน รวมไปถึงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในสถานประกอบการ อาทิ โครงการซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง จังหวัดลพบุรี โดยต้นทางของกล้าไม้ที่นำมาปลูกในเขตหนองจอก จำนวน 35 ชนิด รวมกว่า 600 ต้น มาจากพื้นที่โครงการฯ ดังกล่าว ด้วยการคัดเลือกชนิดพันธุ์ไม้ที่เหมาะสมกับพื้นที่ลุ่มต่ำของ กทม. เป็นพันธุ์ไม้ที่มีค่าทางเศรษฐกิจ ดูแลให้แกร่งโดยชุมชน เป็นการส่งเสริมชุมชนรักษาป่าและมีรายได้จากการเพาะพันธุ์กล้าไม้ นอกจากนี้ ยังเป็นการสานต่อกิจกรรมนำร่องเมื่อ ปี 2565 ซึ่งบริษัทฯได้นำกล้าไม้มาแจกให้แก่คนใน กทม. นำไปปลูกในพื้นที่อยู่อาศัย ปัจจุบัน กิจการในประเทศไทยและกิจการต่างประเทศ (ข้อมูลจาก 8 ประเทศ) ของซีพีเอฟ ดำเนินการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และปลูกป่าใหม่ไปแล้วกว่า 6.85 ล้านต้น บนพื้นที่ 19,932 ไร่ ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 4.8 หมื่นตันต่อปี./
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon