มิติหุ้น – SET Index : คาดกรอบ SET ที่ 1360-1380 จุด +/- รอปัจจัยสนับสนุนในประเทศใหม่ทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการฟื้นคืนชีพ LTF โดย เมื่อคำนวณจากเม็ดเงินที่ไหลเข้าเฉลี่ยของ LTF ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท และ Correlation ในอดีตที่ 0.79 SET Index ควรจะปรับตัวขึ้นได้ราว 35-40 จุดหากมีการนำกลับมาของ LTF อีกครั้ง
ทั้งการวิเคราะห์เชิงคุณภาพและเชิงปริมาณต่างบ่งชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า ผลประโยชน์ต่อผู้ลงทุนของ LTF ได้เปรียบกว่า จูงใจกว่า (ลดหย่อน 5 แสนบาทและการถือ 7 ปี ปฎิทิน) และ ส่งผลโดยตรงต่อตลาดหุ้นไทยมากกว่า
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจ เมื่อวานมีการประกาศตัวเลข Industrial profit หรือ กำไรของบจ.อุตสาหกรรม ซึ่งออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด (+4% yoy) (ตลาดคาด -3.5%) เป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นปิโตรเคมีไทย
สัปดาห์นี้ จับตา
1) PCE และ Core PCE สหรัฐ เดือน เม.ย. 2024 โดยตลาดคาด +0.3% mom และ +0.3% mom ตามลำดับ
2) GDP สหรัฐ 1Q24 โดย ตลาดคาดเติบโต 1.2% qoq
3) เงินเฟ้อยูโรโซน โดย ตลาดคาด +0.2% mom
4) ตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีน โดย ตลาดคาด 50.4
5) ตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดรายงานโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ส่วนประเด็นอื่นๆ ตลาด ฯ เผยแพร่หลักเกณฑ์การจัดทา ดัชนี SET50/SET100 ใหม่ โดยใช้เกณฑ์ Turnover ratio ขั้นต่ำ 1% และ Trading value ขั้นต่ำ 25%
หุ้นที่เราคาดว่าจะเข้า SET50: BCP, ITC, TIDLOR
หุ้นที่คาดว่าจะออก: COM7, KCE, SAWAD
หุ้นแนะนำ
CBG:
CBG
เราคาดว่ายอดขายเครื่องดื่มบำรุงกำลังจะเติบโตแข็งแกร่งในปี FY24-25 นำโดยส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นในไทยและยอดส่งออกที่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ
ยอดส่งออกไปประเทศกัมพูชาเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวใน 1Q24 (เติบโตทั้ง yoy และ qoq) หลังอยู่ในขาลงมาตลอดตั้งแต่ 3Q20 ขณะที่ผู้บริหารเชื่อว่ายอดขายจะยังแข็งแกร่งใน 2Q24 และ 3Q24 เนื่องจากมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากผู้จัดจำหน่ายในประเทศนี้ ซึ่งผู้บริหารมองว่ายอดสั่งซื้อจากกัมพูชาอาจสูงถึง 2 ล้านลัง/เดือนใน3Q24 (เพิ่มขึ้นจาก 1.6 ล้านลัง/เดือนช่วงต้นปีนี้) และอาจเพิ่มขึ้นแตะ 2.4 ล้านลัง/เดือนในปี FY25 (เท่ากับ สถิติสูงสุดในปี FY19)
GPM ในปี FY24-25 จะยังอยู่ในระดับดีเพราะการประหยัดต่อขนาดน่าจะสามารถหักล้างผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น
(Take profit : 73.50 / Stop loss : 69.25)
TIDLOR :
หลังจากเคลียร์งบดุล 5 ไตรมาส คุณภาพสินทรัพย์อยู่ภายใต้การควบคุมได้แรงหนุนจากการอัตราการสร้าง NPL ที่ทรงตัว เราคาดกำไรสุทธิเติบโต 20%
CAGR สำหรับ FY24-26 ได้แรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นและรายได้แข็งแกร่งทั้งสินเชื่อและนายหน้าประกันภัย
เราชอบ TIDLOR ในกลุ่มเช่าซื้อทะเบียนรถยนต์เมื่อเทียบกับ MTC และ SAWAD จากกำไรสุทธิที่คาดแข็งแกร่งและงบดุลที่แข็งแกร่ง (อัตราส่วน NPL ต่ำและการตั้งสำรอง NPL สูง)
(Take profit : 20.70 / Stop loss : 19.50 )
#Macro&WealthResearch
#CGSInternational
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon