มิติหุ้น – SCC ปิดถังจัดเก็บของบริษัทมากกว่า 2 ถังหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 9 พ.ค. แต่ถังส่วนใหญ่กลับมาเปิดดำเนินงานแล้ว
Chemical Market Analytics (CMA) รายงานว่า Naphtha cracker ของ SCC สองโครงการคือบริษัท ระยองโอเลฟินส์จำกัด (ROC) และ บริษัทมาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด (MOC) ใช้กำลังการผลิตลดลงหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ ทั้งนี้แม้เราเชื่อว่า ROC และ MOC มีผลการดำเนินงานขาดทุนมาตั้งแต่ 4Q21 แต่โรงงานปลายน้ำบางแห่ง น่าจะยังมี EBITDA เป็นบวก รวมถึงโรงงาน PVC (polyvinyl chloride), บิวทาไดอีนและ MMA (methylmethacrylate)
แม้ สเปรด PE (polyethylene)/PP (polypropylene) ในอาเซียนฟื้นตัวมาอยู่ที่ระดับ 250 เหรียญสหรัฐ/ตันในเดือนพ.ค. 2024 จาก 190 เหรียญสหรัฐ/ตันในเดือนเม.ย. ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้นทุน วัตถุดิบแนฟทาลดลง … อย่างไรก็ตาม SCC อาจไม่ได้ประโยชน์ เนื่องจาก ROC และ MOC ยังมีอัตราการผลิตลดลง
เราปรับประมาณการ EPS ลง 11.6% ในปี 2024 หลังปรับลดส่วนแบ่งรายได้ (เพราะอุปทานวัตถุดิบอาจได้รับผลกระทบ) และ สเปรด PE/PP รวมถึง โครงการ Long Son Petrochemical complex (LSP) ของ SCC ยังไม่เปิด ดำเนินงานในเดือนพ.ค. 2024 และน่าจะกลับมาเดินเครื่องใน 3Q24 ดังนั้น
คงคำแนะนำ “ขาย” ราคาเป้าหมาย 235.00 บาท
#Macro&WealthResearch
#CGSInternational
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
