มิติหุ้น – SAFE โดย บล.พาย ระบุว่า ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 2024 เติบโต 20-25% YoY หนุนจาก (1) การขยายเครือข่าย ผ่านทางเอเจนซี่ที่จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าให้กับทางบริษัท โดยสัดส่วนเอเจนซี่เดิม ก่อนที่จะขยายคิดอยู่ที่ประมาณ 10% ของธุรกิจการฝังตัวอ่อนเพื่อการตั้งครรภ์ (SAFE) (2) การขยายฐานลูกค้าชาวต่างชาติให้มากขึ้นเป็นสัดส่วน 50% ของรายได้ ทั้งหมด (สัดส่วนลูกค้าต่างชาติ ณ สิ้นปี 2023 คิดเป็น 45% ของรายได้รวม)
(3) Brand awareness ที่เพิ่มขึ้น ผ่านการโฆษณาและติดตั้งห้องปฏิบัติกาโดยธุรกิจ ในส่วนของ NGG ให้กับโรงพยาบาลที่ให้บริการเกี่ยวกับการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ทางบริษัทมีการเพิ่มทุน 20 ล้านบาท ในบริษัท SWC (SAFE ถือหุ้นอยู่ 80%) เพื่อที่จะ เน้นในส่วนของธุรกิจ Wellness โดยบริษัทจะเปิดตัวสินค้า Wellness ru Q3/24 ซึ่ง ผู้บริหารมองว่าการออกผลิตภัณฑ์จะช่วยให้ธุรกิจในส่วนของ SWC มีแนวโน้มที่จะ เข้าสู่จุดคุ้มทุนได้ภายในปี 2024
ทางบริษัทคาดว่าการเปิดตัวเทคโนโลยีตัวใหม่ PGT-SEQ A ที่มีเพียงแห่งเดียวใน ประเทศไทยและได้รับการรับรองจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่จะพร้อมดำาเนินการใน Q3/24 จากเดิมที่คาดว่าจะเริ่มเปิดให้ใช้บริการได้ในช่วง 2024 โดยทางผู้บริหารนั้น มองว่าหลังจากออกเทคโนโลยีใหม่จะช่วยดึงดูดลูกค้าในระยะชัดไปจากอัตรา ความสําเร็จที่สงขึ้น
ฝ่ายวิจัยจึงมีมุมมองที่เป็นบวกในระยะยาวเนื่องจากภาพรวมของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพื่อการเจริญพันธุ์ (Fertility Tourism) ที่คาดเติบโต 14.6% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2019- 27E อ้างอิงจากกระทรวงสาธารณสุข และ Allied Market Research ซึ่งจะสือไปกับ การเติบโตของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) ที่คาดเติบโต 15.7% ต่อปีตั้งแต่ 2024-346 ฉาก Future Market insights โดยธุรกิจการฝังตัวอ่อน เพื่อการตั้งครรภ์จะเข้าสู่ช่วง High Season และเติบโตสูงสุดในช่วงไตรมาส 3 ของปี อย่างไรก็ตามเรามองว่าบริษัทจะได้รับผลกระทบระยะสั้น จากอุปสงค์ที่อ่อนตัวหลัง ผ่านช่วงที่เหมาะสมสําหรับการมีบุตรมีปังกร อีกทั้งด้วยจํานวนลูกค้าชาวไทยที่มี แนวโน้มหดตัวช่วงเทศกาลในเดือนเมษายน อย่างไรก็ตามจะมีปัจจัยฤดูการเข้ามา ส่งเสริมจากการกลับมาของชาวต่างชาติในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ดังนั้นเรา จึงมองว่าแนวโน้ม Q2/24 อาจอ่อนตัว QoQ แต่เติบโตเล็กน้อย YOY
บริษัทมีแผนในการเปิดตัวเทคโนโลยีตัวใหม่ และการเปิดตัวสินค้าใหม่ในด้านสุขภาพ ซึ่งการเปิดตัวเทคโนโลยีตัวใหม่ PGT-SEQ A จะช่วยผลักดันให้มีอัตราความสําเร็จที่ สูงขึ้น ซึ่งจะช่วยดึงดูดฐานลูกค้าใหม่ในอนาคตให้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น รวมไปถึง การขยายเอเจนซี่และการทำโฆษณาทางการตลาดของบริษัท อาทิเช่น การโฆษณาใน ต่างประเทศที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย การติดป้ายในตึก และการจัดสัมมนาตามโรงพยาบาล
และคลินิกซึ่งจะช่วยส่งเสริม Brand Awareness ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยหากอิงจาก IAA Consensus มีนักวิเคราะห์อยู่ทั้งหมด 3 ราย ให้คำแนะนํา “ซื้อ”ที่ราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 25.17 บาท
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon