มิติหุ้น – บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ PDJ หนึ่งในผู้ผลิตเครื่องประดับชั้นนำของโลก ที่เชี่ยวชาญการรังสรรค์งานฝีมืออันทรงคุณค่า และมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนมากว่า 50 ปี ได้เปิดเผยผลการดำเนินงาน ไตรมาสที่ 1 ปี 2024 ว่า บริษัทฯมีรายได้จากการขาย อยู่ที่ 807 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดขายจากกลุ่มธุรกิจการผลิต 546 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งยอดขายดังกล่าวไม่รวมรายได้จากการขายวัตถุดิบทอง 306.42 ล้านบาท ในขณะที่กลุ่มธุรกิจ Omnichannel Distribution มียอดขาย 261 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการจัดจำหน่ายของบริษัทฯในประเทศอินเดียที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับประเทศไทยมียอดขายใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ ในไตรมาส1 ปี 2024 บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้น 163.51 ล้านบาท คิดเป็น 14.69% ต่ำกว่างวดเดียวกันของปีก่อน 23.23% สาเหตุหลักมาจากยอดขายในฐานการผลิตที่ได้รับค่ำสั่งซื้อสัดส่วนงานทองมากขึ้น และถ้าไม่รวมรายได้จากการขายวัตถุดิบทอง จะทำให้มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 20.19% ส่งผลให้ในไตรมาส1 ปี 2024 บริษัทฯ มีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 0.74 ล้านบาท ในขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ 2.25 ล้านบาท
สำหรับเป้าหมายธุรกิจในปี 2024 นี้ คุณชนัตถ์ สรไกรกิติกูล กรรมการผู้จัดการสายการเงินและบริหารความเสี่ยง บมจ. แพรนด้า จิวเวลรี่ ได้เปิดเผยว่า บริษัทฯยังคงดำเนินกลยุทธ์ตามแผนที่ตั้งไว้ ทั้งในกลุ่มธุรกิจการผลิต ที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าในเชิงกลยุทธ์ สร้างความเชื่อมั่นต่อลูกค้า เพื่อการเติบโตร่วมกันในระยะยาว และการสร้างวัฒนธรรมองค์กร พัฒนา Growth Mindset ให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งคาดการณ์ว่าในช่วงครึ่งปีแรก กลุ่มธุรกิจการผลิตจะมียอดขายเพิ่มขึ้น 53% สูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถ้าไม่รวมรายได้จากการขายวัตถุดิบ จะเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน
ในด้านกลุ่มธุรกิจ Omnichannel Distribution นั้น บริษัทฯได้ดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ในช่วงครึ่งปีแรก ดังนี้
▪PRIMA Thailand มุ่งขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ไปสู่ Young Generation และยังคงรักษาฐานลูกค้าเดิม ตลอดจนการปรับโฉมร้านค้ารูปแบบใหม่ที่มีสีสันแตกต่างไปจากเดิม โดยเลือกใช้สีชมพู สื่อถึงความอบอุ่น นุ่มนวล อ่อนเยาว์ สีเทา สื่อถึงความเป็นมืออาชีพ ความชำนาญ เพื่อมอบบรรยากาศใหม่ แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นPRIMA
▪PRIMA Vietnam มุ่งเน้นกลยุทธ์สำคัญที่ใกล้เคียงกับ PRIMA Thailand และการเพิ่มโอกาสทางการตลาดในกลุ่มลูกค้าองค์กร ที่เติบโตเพิ่มขึ้น 315% แต่ด้วยปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศ และการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยประเภทสินค้าฟุ่มเฟือย แม้ช่วงครึ่งปีแรกคาดการณ์ว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้น 13% แต่ก็ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ประมาณ 10%
▪PRIMA India เน้นการจัดจำหน่ายสินค้า PRIMA ART เป็นหลัก โดยขายผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่าย และมีการเติบโตสูงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2024 กลุ่ม Active TRJs (Trusted Retail Jewelers) เพิ่มขึ้น 167% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดการณ์ครึ่งปีแรกจะมียอดขายโตขึ้น 38%
▪GEMONDO UK มุ่งขายสินค้าและแคมเปญการตลาดให้เหมาะสมกับแต่ละช่องทาง เน้น Marketplace ใหม่ที่มีศักยภาพและเติบโตสูง อาทิ Wolf & Badger และพัฒนาประสิทธิภาพทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเน้นการขายผ่านช่องทางเว็บไซต์ GEMONDO ที่โฟกัสทั้งรูปแบบสินค้าร่วมสมัยและคลาสสิค ตอบโจทย์ “World of Gems”จากกลยุทธ์ของกลุ่มธุรกิจ Omnichannel Distribution นี้ คาดว่ายอดขายครึ่งปีแรกจะเติบโตได้ 13% แต่ก็ยังต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 9% เนื่องด้วยปัจจัยแวดล้อมภายในและภายนอก ที่ยังคงเป็นความท้าทายในการดำเนินธุรกิจ