KTAM เตรียมจ่ายปันผลและลดทุนกองทุนรวมอสังหาฯ-โครงสร้างฯ Q1 ปี 67 กว่า 1.8.พันล้าน 14 มิ.ย.นี้

33

มิติหุ้น  –  นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTAM) เปิดเผยว่า จากข้อมูลเศรษฐกิจและการเงินเดือนเมษายน 2567 ของธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่าเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศปรับดีขึ้นจากภาคบริการที่ขยายตัว สอดคล้องกับรายรับภาคการท่องเที่ยวและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานและกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ KTAM สามารถสร้างผลตอบแทนได้เป็นที่น่าพอใจอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงได้ประกาศจ่ายปันผลและจ่ายลดทุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ รวมจำนวนกว่า 1,854 ล้านบาท พร้อมกันในวันที่ 14 มิ.ย. 2567 นี้

กลุ่มกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ประกอบด้วย กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลครบุรี (KBSPIF) ลงทุนในสิทธิในผลประโยชน์จากการประกอบกิจการไฟฟ้าในอัตรา 62% ของรายได้ค่าไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของบริษัทผลิตไฟฟ้าครบุรี จำกัด (หรือ KPP ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มน้ำตาลครบุรี) กับ กฟผ. และกลุ่มน้ำตาลครบุรีโดยเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ใช้กากอ้อยซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้จากการผลิตน้ำตาลเป็นเชื้อเพลิงหลัก สัญญาเข้าลงทุนมีระยะเวลาถึงปี 2582 หรืออีกประมาณ 15 ปี จึงเหมาะกับนักลงทุนที่มีมุมมองการลงทุนระยะยาว มองหากระแสรายได้จากทรัพย์สินโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน  โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 15 จากกำไรสุทธิและกำไรสะสมสำหรับรอบระยะเวลาบัญชี ม.ค. – 31 มี.ค. 2567 ในอัตรา 0.2420 บาทต่อหน่วย

อีกหนึ่งกองทุนที่น่าสนใจคือ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFFIF) ที่ลงทุนในสิทธิในรายได้ 45% ของรายได้ค่าผ่านทางสุทธิ ที่จัดเก็บได้จากโครงการทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษบูรพาวิถี ซึ่งบริหารโดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) สัญญามีระยะเวลาคงเหลือประมาณ 24 ปี (สิ้นสุดปี 2591) กองทุนนี้จึงเหมาะกับนักลงทุนที่มีมุมมองการลงทุนระยะยาว มองหาทรัพย์สินโครงสร้างพื้นฐานที่มีโอกาสสร้างรายได้ให้เติบโตตามภาวะเงินเฟ้อ และการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้บริการทางพิเศษทั้งใน เส้นทางนี้  โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 22 จากกำไรสุทธิและกำไรสะสมสำหรับรอบระยะเวลาบัญชี ม.ค. – 31 มี.ค. 2567 ในอัตรา 0.1099 บาทต่อหน่วย

และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าพระนครเหนือชุดที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGATIF) เป็นกองทุนที่ลงทุนในสิทธิในรายได้ค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ ของ กฟผ.  โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 33 จากกำไรสุทธิและกำไรสะสมสำหรับรอบระยะเวลาบัญชี ม.ค. – 31 มี.ค. 2567 ในอัตรา 0.1501 บาทต่อหน่วย และจ่ายลดทุนครั้งที่ 13 ในอัตรา 0.0800 บาทต่อหน่วย รวมจ่ายปันผลและลดทุน จำนวน 0.2301 บาทต่อหน่วย

สำหรับกลุ่มกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซี.พี. ทาวเวอร์ โกรท (CPTGF) :ซึ่งลงทุนในสิทธิการเช่าในที่ดินอาคาร และส่วนควบของ อาคารสำนักงานและศูนย์การค้าในอาคารที่ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางเมือง แห่ง ได้แก่ CP Tower 1 (สีลม) CP Tower 2 (รัชดาภิเษก) และ CP Tower 3 (พญาไท) กำหนดจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 40 จากกำไรสุทธิสำหรับรอบระยะเวลาบัญชี ม.ค. – 31 มี.ค. 2567 ในอัตรา 0.0295 บาทต่อหน่วย และจ่ายลดทุนครั้งที่ 16 ในอัตรา 0.1585 บาทต่อหน่วย รวมเงินปันผลและลดทุน จำนวน 0.1880 บาทต่อหน่วย รวมถึงกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ตลาดไท (TTLPF) ซึ่งลงทุนในสิทธิการเช่าของสิ่งปลูกสร้างบางส่วนในโครงการตลาดไท ซึ่งกำหนดจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 54 จากผลการดำเนินงานรอบระยะเวลาบัญชี ม.ค. – 31 มี.ค. 2567 และกำไรสะสม ในอัตรา 0.5547 บาทต่อหน่วย

นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ยังมีการจ่ายปันผลจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าโลตัสส์ รีเทล โกรท (LPF) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 1 .. 2566  29 .. 2567 ซึ่งจ่ายให้ผู้ถือหน่วยแล้วเมื่อวันที่ 17 .. 2567 ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งที่ 48 ในอัตรา 0.2238บาทต่อหน่วย

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon