TOP วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

61

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มต่อเนื่อง หลังตลาดกังวลว่าอุปทานจะตึงตัว
จากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในยุโรปและตะวันออกกลาง

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกว่า 1% หลังตลาดกังวลว่าอุปทานจะตึงตัว จากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงรุนแรง ล่าสุดเกิดปฏิบัติการโจมตีด้วยโดรนของยูเครน ส่งผลให้โรงกลั่นน้ำมันของรัสเซียเกิดเพลิงไหม้อย่างหนัก รวมทั้งถังเก็บน้ำมันได้รับความเสียหาย ส่งผลให้อุปทานจากรัสเซียมีแนวโน้มตึงตัวขึ้น หากการโจมตียังคงดำเนินต่อไป

+ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล เตือนว่าการตัดสินใจทางทหารกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์อาจเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ เพื่อเป็นการตอบโต้การยิงข้ามพรหมแดนทางตอนใต้ของเลบานอน แม้ว่าสหรัฐฯ จะพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะครั้งใหญ่ระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ขณะที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์กล่าวว่าจะไม่ยุติการโจมตี เว้นแต่จะมีการหยุดยิงในฉนวนกาซา ส่งผลให้ความขัดแย้งมีแนวโน้มขยายวงกว้างมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่ออุปทานน้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง

– หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เปิดเผยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 14 มิ.ย. 67 ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 2.264 ล้านบาร์เรล สวนทางจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน : ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ แม้ว่าอุปสงค์น้ำมันเบนซินในอินโดนีเซียยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่อุปทานในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง

ราคาน้ำมันดีเซล : ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันดีเซลของอินเดียปรับลดลงเนื่องจากฤดูมรสุม ขณะที่อุปทานภูมิภาคมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังผ่านพ้นฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในช่วงก่อนหน้า

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon