มิติหุ้น – ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ราคาหุ้น HMPRO ปรับตัวลง 37.5% ช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และ underperform ดัชนี SET ถึง 23.3% ทำให้ P/E ล่วงหน้า 12 เดือนทำสถิติต่ำสุดในรอบ 14 ปีที่ 16.1 เท่า เชื่อว่ามาจากการที่ร้าน HomePro ได้มาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว และอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) มีแนวโน้มลดลง เพราะอุปสงค์ของสินค้าเกี่ยวกับบ้านอ่อนตัว
อย่างไรก็ตาม คาดว่าอุปสงค์ของสินค้าเกี่ยวกับบ้าน จะกลับมาฟื้นตัวช่วงปลายไตรมาส 1/68 เนื่องจาก Bloomberg consensus คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในไตรมาส 4/67 แต่มองว่า P/E ล่วงหน้า 12 เดือนอาจไม่กลับมาอยู่ที่ระดับเดียวกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 14 ปีที่ 28.7 เท่า เพราะการเติบโตระยะยาว 3-5 ปี มีแนวโน้มต่ำกว่าในอดีต
โดยเชื่อว่าราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ P/E ล่วงหน้า 21.2x (-1SD ของค่าเฉลี่ย 14 ปี) เหมือนช่วงก่อนที่ราคาของ HMPRO จะดิ่งลงจาก SSSG ที่อ่อนตัวในไตรมาส 3/66
แม้รูปแบบร้าน HomePro ในปัจจุบันจะมาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว แต่เชื่อว่าร้าน MegaHome ยังมีศักยภาพที่จะขับเคลื่อนการเติบโต โดยการขยายสาขาของร้าน MegaHome ในเชิงรุกและสัดส่วนยอดขายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่าสัดส่วนยอดขายของ Mega Home จะเพิ่มขึ้นจาก 16.6% ในปี 66 เป็น 20.9% ของยอดขายรวมของ HMPRO ภายในปี 69 ขณะที่สัดส่วนกำไรสุทธิจะเพิ่มจาก 5% เป็น 8.7%
ดังนั้น แม้ว่ากำไรจากร้าน MegaHome จะยังไม่มาก แต่จะช่วยหนุนให้ HMPRO มี EPS เติบโต 5-10% ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า จึงเชื่อว่า HMPRO น่าจะซื้อขายอยู่ที่ P/E ล่วงหน้า 12 เดือนที่ 20-22 เท่าไปอีก 3-5 ปีเทียบจากค่าเฉลี่ย 14 ปีที่ 21.2 เท่า และที่ระดับ 22 เท่า ในปี 58 เมื่อ EPS เติบโตลดลงเหลือ 5.6%
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 67-69 ลง 0.9-3.9% และปรับราคาเป้าหมายหุ้น HMPRO ลงมาอยู่ที่ 12.70 บาท สะท้อน SSSG ที่มีแนวโน้มอ่อนตัว โดยราคาเป้าหมายใหม่เท่ากับ P/E ล่วงหน้า 12 เดือนที่ 22.7 เท่า ซึ่งมองว่าเหมาะสมแล้ว เนื่องจาก HMPRO น่าจะยังมี EPS เติบโตในระยะยาว 3-5 ปี, มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งและยังเป็นผู้นำในตลาด Home improvement ระดับกลางถึงไฮ-เอนด์ในไทย
เชื่อว่าการประเมินมูลค่าในปัจจุบันของ HMPRO ต่ำเกินไปและราคาหุ้นน่าจะปรับตัวขึ้นภายใน 12 เดือนข้างหน้า เมื่ออุปสงค์ของสินค้าเกี่ยวกับบ้านฟื้นตัวในปี 68 นอกจากนี้ HMPRO ยังมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าสนใจที่ 4.8% ในปี 67 จึงยังแนะนำ “ซื้อ”
มอง downside risk มาจากการแข่งขันสูงขึ้นในกลุ่มร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างและแนวโน้มที่ผู้บริโภคจะหันไปซื้อสินค้าที่มีราคาถูกลง ส่วนปัจจัยบวกคือการที่ MegaHome มีสัดส่วนยอดขายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์สูงกว่าคาดและธปท.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon