40 ปีที่แข็งแกร่ง “เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์” ผู้นำธุรกิจ OEM-ODM เครื่องสำอางและสุขภาพครบวงจร ยืนหนึ่งด้วย “นวัตกรรม” ล้ำสมัย สร้างคุณค่าตรงใจผู้บริโภค

46

มิติหุ้น  –  นางทองสุข อุปถัมภากุล กรรมการบริษัท ฝ่ายธุรกิจ บริษัท เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจโดยรวมของบริษัท เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ว่าเป็นบริษัทที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของงการสร้างข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันทางธุรกิจให้กับลูกค้า เราจึงให้ความสำคัญในเรื่องของการออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรม จาก R&D ที่มีความรู้ ความชำนาญ มากประสบการณ์ อีกทั้งบริษัทฯ เรายังมีทีมงานที่เรียกว่า Customer Relationship ที่คอยดูแลใส่ใจ ให้บริการ ให้คำแนะนำในการทำการตลาดอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า ไม่ใช่เพียงแต่เป็นผู้ผลิตอย่างเดียว

ด้วยเพราะทาง เอส แอนด์ เจ  มองว่า  สิ่งที่สำคัญในโลกของการทำธุรกิจเครื่องสำอาง ไม่เพียงเฉพาะในการเป็นผู้ผลิตเท่านั้น การที่ได้ทราบความต้องการของผู้บริโภค เข้าใจตลาด ก็จะยิ่งทำให้ทางบริษัทสามารถออกแบบผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้ และการที่ลูกค้ามีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นความภาคภูมิใจของทาง เอส แอนด์ เจ ที่สามารถให้คำแนะนำ การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยลูกค้าสามารถมั่นใจในการเลือกสินค้า ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคและตลาด สิ่งเหล่านี้ที่บริษัททำให้กับลูกค้า จะทำให้ธุรกิจของบริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนมากกว่า โดยกลุ่มลูกค้าของ บริษัท เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) นั้นมีหลากหลายกลุ่ม ทั้ง Offline และ Online รวมไปถึงผู้ประกอบรายใหม่ๆ ในโลกออนไลน์ ก็มีเข้ามาในช่วงสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงจากการเกิดการระบาดของ ไวรัสโควิด-19 เมื่อ ปีก่อน ซึ่งการเติบโตในส่วนของลูกค้าออนไลน์ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ปัจจุบันเองก็มีกลุ่มลูกค้าจาก TikTok เพิ่มเข้ามาอีกด้วย ทำให้ เอส แอนด์ เจ ได้โอกาสผลิตสินค้าในการตอบโจทย์ให้กับลูกค้ากลุ่มนั้น ๆ  โดยการเริ่มต้นทำธุรกิจอาจจะไม่จำเป็นต้องมีเงินลงทุนมากนัก เพียงหลักแสนก็สามารถผลิตสินค้าอย่าง ลิปสติก หรือ แป้ง ได้แล้ว

ด้าน Innovation ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ต้องมีความโดดเด่นและแตกต่างจากบริษัทอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อที่แปลกแตกต่าง สารสกัดที่เราสกัดเอง สร้างมูลค่าเพิ่มจากการช่วยเหลือชุมชนและเกษตรกร เป็นต้น สำหรับเทรนด์สินค้าก็เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องเข้าใจ เช่น Trend สินค้า Color Cosmetics ของทาง เอส แอนด์ เจ ก็จะผสมผสานความเป็นสกินแคร์เข้าไปในกระบวนการผลิตด้วย  โดยสารพวกนี้จะเข้าไปบำรุง และจะช่วยทำให้สีของคัลเลอร์ติดทนได้นานยิ่งขึ้น สีสันชัดเจนเป็นธรรมชาติ  ในด้าน Skin Care ของ เอส แอนด์ เจ เรามองว่าการที่ประเทศไทยเริ่มเป็นสังคมผู้สูงอายุมากขึ้น ทำให้ผลิตภัณฑ์ด้านการชะลอริ้วรอย ที่มีสารสกัดต่าง ๆ  จากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพในการที่จะปกป้องผิว และช่วยเรื่องลดริ้วรอยกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น รวมถึงสินค้า SUN Product ของทาง เอส แอนด์ เจ ทุกตัวของเรา ก็เป็นสูตรไม่เหนียวเหนอะหนะ ปกป้องผิวจากแสงแดด UVA, UVB, Blue Light และมีสารที่ไม่ก่อให้เกิดการทำลายปะการัง อีกทั้งแม้สินค้าเนเชอรัลโปรดักส์จะมีต้นทุนราคาที่สูงขึ้นกว่าสินค้าปกติ แต่บริษัทก็พยายามที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อมและความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้มากที่สุด โดยบริษัทได้มุ่งมั่นทำตลาดด้านนี้มาไม่ต่ำกว่า ปีแล้ว

นอกจาก Personal Product สินค้าจำพวก Skin Care, Face, Body, Lotion, Roll on, Hygienic ที่ทาง เอส แอนด์ เจ มีหลากหลายและครอบคลุม แต่ประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา ทางบริษัทได้เพิ่มประเภทสินค้าใหม่ ในหมวด Pet Care หรือ ผลิตภัณฑ์เพื่อสัตว์เลี้ยงด้วย เนื่องจากทางบริษัทเล็งเห็นเทรนด์ใหม่ คนในยุคปัจจุบันและเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ ทำให้คนวางแผนการใช้ชีวิตไม่คิดที่จะมีลูก พร้อมเลี้ยงดูสุนัขและแมวแทน ทางบริษัทจึงมีสินค้าแชมพูคอนดิชันเนอร์ เพื่อที่จะใช้ดูแลสุนัขและแมวของกลุ่มลูกค้า ซึ่งทุกๆ ผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ ทาง เอส แอนด์ เจ มองว่า ทุกตัวมีความสำคัญ และทำให้บริษัทสามารถยืนหยัดมาได้จนถึงทุกวันนี้ และยังต้องเติบโตไปพร้อม ๆ กันต่อไป

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon