“ASW” โชว์ยอดขาย 6 เดือนแรกปี 67 รวม 10,730 ล้านบาท ทะลุ 60% ของเป้าทั้งปี หลังโปรเจกต์ภูเก็ตคึกคักดันยอดพุ่ง เตรียมเปิด 6 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 11,760 ล้านบาท

66
มิติหุ้น  –  นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 2/2567 (เม.ย.-มิ.ย. 2567) บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 4,461 ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 บริษัทมียอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรทั้งหมด 10,730 ล้านบาท เติบโตจากช่วงครึ่งปีแรกของปีที่ผ่านมา 35% และคิดเป็น 60% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปี ปัจจัยหลักมาจากกระแสตอบรับการเปิดขาย 6 โครงการใหม่ ครอบคลุมทั้งทำเลภูเก็ต และแคมปัสคอนโดย่านมหาวิทยาลัยมูลค่าโครงการรวม 14,060 ล้านบาท
ทั้งนี้ การเติบโตของยอดขายดังกล่าวส่วนหนึ่งมาจากโครงการ Leisure Condominium ในทำเลภูเก็ต ภายใต้การพัฒนาของบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE บริษัทลูกของ ASW จำนวน 2 โครงการ คือโครงการเดอะ ไทเทิล เฮอริเทจ บางเทา (The Title Heritage Bang-Tao) และโครงการเดอะ ไทเทิล เซเรนิตี้ ในยาง (The Title Serenity Nai-Yang) ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดี และสร้างยอดขายได้อย่างน่าประทับใจ ประกอบกับในช่วงไตรมาส 2/2567 บริษัทได้เปิดตัวโครงการแคมปัสคอนโดใหม่อีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการเคฟ เจเนซิส นครปฐม (Kave Genesis Nakhon Pathom) โดดเด่นด้วยห้องพักมากถึง 6 รูปแบบ บนพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในไพร์มโลเคชั่น ใกล้ ม.ศิลปากร ตรงข้ามห้างเซ็นทรัล นครปฐม มูลค่าโครงการ 1,160 ล้านบาท และโครงการเคฟ ลูมินัส บางมด (Kave Luminous Bangmod) คอนโดมิเนียมมูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ที่มาพร้อมพื้นที่ส่วนกลางมากถึง 23 ฟังก์ชั่น บนทำเลศักยภาพ ใกล้ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางปะกอก ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ตอกย้ำถึงการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้งกลุ่มผู้ที่ซื้ออยู่อาศัยเอง และกลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อปล่อยเช่าเพื่อรับผลตอบแทนที่ดี
“แม้สถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศยังเผชิญความท้าทายต่างๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีสัญญาณที่ดีจากภาคการท่องเที่ยว หลังรัฐบาลออกมาตรการฟรีวีซ่า ดึงดูดให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภูเก็ต หนึ่งใน World Destination ที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ ทั้งท่องเที่ยวระยะสั้น และพักอาศัยแบบ Long stay จึงเป็นโอกาสที่ดีของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต ประกอบกับการศึกษาลงลึกถึง Insight และเข้าใจไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ทำให้โครงการภายใต้แบรนด์เดอะ ไทเทิล ได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติ เราเชื่อมั่นว่ากลยุทธ์บุกทำเลภูเก็ตของเราในปีนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันยอดขายของแอสเซทไวส์ให้เติบโตได้อย่างมั่นคง“ นายกรมเชษฐ์ กล่าว
นายกรมเชษฐ์ กล่าวอีกว่า สำหรับภาพรวมครึ่งหลังของปีนี้ ภาคการท่องเที่ยวยังคงเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงมุ่งเดินหน้าตามกลยุทธ์ “The New Frontier” ขยายทำเลโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ในแถบอีอีซีและภูเก็ต ซึ่งเป็นทั้งเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศตามที่ประกาศไว้ช่วงต้นปี โดยมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวม 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 11,760 ล้านบาท โดยมีโครงการเรือธง (Flagship project) ที่กำลังเตรียมเปิดตัวคือ โครงการอควารัส จอมเทียน พัทยา (Aquarous Jomtien Pattaya) มูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียมหรูพร้อมส่วนกลางจัดเต็ม ทำเลใกล้ชายหาดจอมเทียนเพียง 500 ม. โดยกว่า 80% ของยูนิตทั้งหมดในโครงการสามารถมองเห็นวิวทะเลได้ เจาะกลุ่มเป้าหมายชาวไทยและชาวต่างชาติที่กำลังมองหาคอนโดสำหรับพักตากอากาศ ซึ่งบริษัทมีแผนเตรียมเปิดตัวในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าแผนการดำเนินงานดังกล่าว จะช่วยผลักดันให้ภาพรวมยอดขายของบริษัทในปีนี้
บรรลุ 17,800 ล้านบาทได้ตามเป้าหมาย และทำให้ปี 2567 นี้จะเป็นอีกหนึ่งปีของการเติบโตที่โดดเด่นของ ASW
สำหรับบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบบนทำเลศักยภาพ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” ปัจจุบันได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 66 โครงการ ภายใต้แบรนด์ในเครือที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความสุขให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ได้แก่ แบรนด์ เคฟ (KAVE), แบรนด์ แอทโมซ (ATMOZ), แบรนด์ โมดิซ (MODIZ), แบรนด์ เอสต้า (ESTA), แบรนด์ ดิ อาเบอร์ (THE ARBOR), แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (THE HONOR) รวมถึงแบรนด์ภายใต้ บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ “TITLE” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ รวมมูลค่าโครงการกว่า 94,100 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 48 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 18 โครงการ และ ณ ไตรมาส 1 ปี 2567 มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 20,475 ล้านบาท

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon