SC Asset ผนึกทุน Tokyo Tatemono บิ๊กอสังหาฯ ระดับแถวหน้าจากญี่ปุ่น เดินหน้าร่วมทุนต่อเนื่อง ลุยธุรกิจคลังสินค้า-โรงงานให้เช่านำร่อง 2 ทำเลศักยภาพ SCX บางนา กม.20 และ SCX แหลมฉบัง รองรับการเติบโตธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

42

มิติหุ้น  –  นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ทิศทางการเติบโตอย่างยั่งยืนของ SC ในทศวรรษที่ 3 (ปี 2024-2033) คือ สร้างคุณค่าสู่คนและสิ่งแวดล้อมบนหลากหลายธุรกิจ ความหลากหลายของธุรกิจจะช่วยให้องค์กรเติบโตได้อย่างยืดหยุ่น ท่ามกลางสถานการณ์ที่ผันผวน และ การลงทุนในธุรกิจ คลังสินค้า-โรงงานเพื่อเช่า เป็น 1 ในยุทธศาสตร์สำคัญ ที่จะสร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอให้ SC (recurring income) ธุรกิจนี้ มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพราะได้แรงสนับสนุนจากการเติบโตของ e-commerce ในประเทศไทย โดยตลอด 10 ปีนี้ SC ตั้งเป้าหมายพัฒนาคลังสินค้า-โรงงานให้เช่า รวม 1 ล้าน ตารางเมตร  ครั้งนี้ Tokyo Tatemono และ SC ตัดสินใจร่วมลงทุนพัฒนาคลังสินค้า-โรงงานให้เช่ารวม 126,704  ตารางเมตร ในทำเลบางนา กม.20 และ แหลมฉบัง เป็นการร่วมทุนครั้งที่ 2 ต่อยอดความสำเร็จจากการร่วมทุนครั้งแรกในธุรกิจคอนโดมิเนียม และเราจะมีการร่วมทุนครั้งต่อไปอีกในอนาคต เพราะเรามีวิสัยทัศน์ ทัศนคติ และความรู้ประสบการณ์ที่เสริมความแข็งแกร่งให้กันและกันเป็นอย่างดี”

Tokyo Tatemono เป็นบริษัทอสังหาฯ ที่แข็งแกร่งระดับแนวหน้าจากประเทศญี่ปุ่น มีสถานะการเงินที่มั่นคง โดยมีทุนจดทะเบียน 22,000 ล้านบาท และมีทรัพย์สินกว่า 460,000 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2566 และมีประสบการณ์และความรู้ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอสังหาฯ ที่หลากหลายต่อเนื่องยาวนานมากว่า 128 ปี ทั้งคอนโดมิเนียม ออฟฟิศ โรงแรม และรีเทล ถือเป็นผู้นำด้านการพัฒนาธุรกิจอสังหาฯ ที่มีประสบการณ์ยาวนานที่สุดของญี่ปุ่น หนึ่งในนั้นคือธุรกิจคลังสินค้าที่บริษัทมีประสบการณ์ในการบริหารและการพัฒนา โดยมีแผนขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

นายฟุมิโอะ ทะจิมะ กรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการสายงานธุรกิจต่างประเทศ  บริษัท โตเกียว ทาเทโมโนะ จำกัด กล่าวว่า “การร่วมทุนในธุรกิจคลังสินค้าและโรงงานให้เช่ากับ SC ครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในการลงทุนโลจิสติกส์ในประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง มีขนาดของเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของภูมิภาค และมีกำลังการบริโภคสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางช่องทางออนไลน์ ซึ่งคาดว่า ในปี 2569 ตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2564 รวมทั้ง ประเทศไทยตั้งอยู่ในตำแหน่งศูนย์กลางของเครือข่ายการขนส่งของภูมิภาค และภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมการลงทุน เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกให้ไทยเป็นฐานการผลิตของกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อส่งออกไปทั่วโลก จึงทำให้ตลาดโลจิสติกส์ในประเทศไทยมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก

การร่วมทุนครั้งนี้ SC และ Tokyo Tatemono ได้วางแผนพัฒนาโครงการคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า 2 โครงการ ใน 2 ทำเล ได้แก่ SCX บางนา กม.20 ย่านบางนา ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพใกล้ใจกลางกรุงเทพฯ และ สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นหนึ่งในทำเลที่มีความต้องการพื้นที่คลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากที่ตั้งของโครงการสามารถเข้าถึงใจกลางกรุงเทพฯ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โครงการนี้จะมีคลังสินค้าทั้งหมด 5 อาคาร รวม 15 ยูนิต โดยมีพื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 78,252 ตารางเมตร แบ่งเป็น 4 เฟส เฟสแรกมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนมกราคม 2568 เฟสที่ 2 และเฟสที่ 3 ในเดือนเมษายนและธันวาคม 2568 และเฟสที่ 4 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2569

อีกโครงการ คือ SCX แหลมฉบัง ตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นท่าเรือการค้าระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ EEC (Eastern Economic Corridor) ที่รัฐบาลให้การสนับสนุนและส่งเสริมการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้มีความต้องการพื้นที่คลังสินค้าสำหรับเก็บชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกไปต่างประเทศ โครงการนี้จะมีคลังสินค้าทั้งหมด 3 อาคาร รวม 10 ยูนิต โดยมีพื้นที่ใช้สอยรวม 46,602 ตารางเมตร แบ่งเป็น 3 เฟส เฟสแรกและเฟสที่ 2 จะแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์และพฤษภาคม 2568 และเฟสที่ 3 ในเดือนมกราคม 2569

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon