“วีบียอนด์” จับมือ “สหการประมูล” ยักษ์ใหญ่แห่งวงการประมูล เปิดช่องทางจัดจำหน่ายรูปแบบใหม่ พร้อมขยายฐานกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ

75

มิติหุ้น  –  จากความนิยมของผู้บริโภคในปี 2024 ที่มีแนวโน้มการสืบค้นข้อมูลอสังหาฯ ในรูปแบบใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ ทำให้ผู้ประกอบการยุคใหม่ต้องปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค บริษัท วี บียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ที่ให้บริการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ แบบครบวงจร (One Stop Service) จึงได้จับมือกับ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจการให้บริการประมูลเต็มรูปแบบ  ที่มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี  ร่วมมือทางธุรกิจเปิดช่องทางการขายรูปแบบใหม่ นำบ้านและคอนโดขายผ่านช่องทางออนไลน์บนหน้าเว็บไซต์สหการประมูลในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ https://auctbid.auct.co.th/property/list โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้า พร้อมขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม end user ผู้ประกอบการ และนักลงทุน เสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจร่วมกัน เมื่อวันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมสาทร ชั้น M อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ สาทร  ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ จะสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าในการหาข้อมูลบ้านและคอนโด รวมถึงการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าในราคายุติธรรมผ่านระบบ e-bidding

ภายในงานได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจ (MOU) ระหว่าง บริษัท วี บียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) โดยคุณวรเดช รุกขพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) โดยคุณวรัญญู ศิลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ คุณสุธี สมาธิ กรรมการผู้จัดการ

โดย คุณวรเดช รุกขพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี บียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ผมในฐานะตัวแทนของบริษัทวีบียอนด์ฯ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับความร่วมมือทางธุรกิจกับ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจร่วมกัน ในการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านเว็บไซด์สหการประมูลที่มีความน่าเชื่อถือ โดยวีบียอนด์ได้รวบรวมสต๊อคสินค้าอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวสูง แนวราบ และบ้านมือ 2 คุณภาพดี ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Smart home ที่ทันสมัยไว้ให้ลูกค้าได้เลือกมากมาย มูลค่าสต๊อครวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ยังเป็นการขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้กว้างมากขึ้น เพื่อต่อยอดส่งเสริมธุรกิจและการลงทุนจากภายในประเทศไปสู่ระดับ Global ในอนาคตอันใกล้นี้ครับ”