
ทั้งนี้ บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้ารายใหม่จำนวน 2 ราย ในกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ เพื่อเข้ามาใช้บริการเช่าพื้นที่คลังสินค้าประเภททั่วไปในเดือนกรกฎาคมนี้ และกลุ่มสินค้าประเภทวัตถุดิบและชิ้นส่วนเครื่องจักรที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ที่จะเริ่มให้บริการได้ภายในต้นไตรมาส 4/67 ส่งผลให้อัตราการใช้พื้นที่คลังสินค้าเฉลี่ยปรับตัวเพิ่มเป็น 80% จากเดิมอยู่ที่ 57-60% ของพื้นที่ทั้งหมด จากปัจจุบันที่มีฐานลูกค้าหลัก ได้แก่ผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่มสินค้าวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรม
ขณะที่คลังสินค้าประเภท Free Zone ที่ปัจจุบันมียอดอัตราการใช้พื้นที่เฉลี่ย 84-85% นั้น บริษัทฯ ยังสามารถ
ขยายการให้บริการแก่ลูกค้าใหม่ภายใต้สัญญาระยะยาว 3 ปี ในกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์เช่นกัน โดยจะเริ่มรับรู้รายได้จากลูกค้าดังกล่าวที่เริ่มเข้ามาใช้บริการในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้เช่นกัน นอกจากนี้ SINO ยังได้มีความร่วมมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์อย่าง SJWD ในการให้บริการแก่ลูกค้าในการช่วยนำเสนอบริการคลังสินค้าอันตรายให้แก่ SJWD ในกรณีที่ลูกค้ามีความต้องการใช้บริการ ซึ่งถือเป็นความร่วมมือที่สร้างประโยชน์ให้แก่ทุกฝ่ายเพื่อนำเสนอบริการที่มีคุณภาพให้แก่ลูกค้าและสามารถสร้างรายได้ให้แก่ทั้งสองฝ่าย“ครึ่งปีหลัง เราจะเห็นการเติบโตที่ดีขึ้นจาก
อัตราการใช้พื้นที่คลังสินค้าโดยเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมาจากความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้ารายใหม่ๆ เข้ามาใช้บริการคลังสินค้าของ SINO ตอกย้ำให้เห็นถึงจุดแข็งด้านทำเลที่ตั้งของคลังสินค้าที่อยู่ในจุดทำเลยุทธศาสตร์การส่งออกของประเทศไทย ซึ่งจะทำให้กลุ่มธุรกิจคลังสินค้าเติบโตได้ดีและช่วยสนับสนุนแผนการดำเนินงานทั้งปีของ SINO ให้ขยายตัวได้ตามเป้าหมาย” นายนันท์มนัส กล่าว
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon